TNN online หมอสหรัฐฯ ย้ำต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบ 2 โดส หวั่นติดเชื้อกลายพันธุ์

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

หมอสหรัฐฯ ย้ำต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบ 2 โดส หวั่นติดเชื้อกลายพันธุ์

หมอสหรัฐฯ ย้ำต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบ 2 โดส หวั่นติดเชื้อกลายพันธุ์

แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ย้ำ ต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบ 2 โดส หวั่นติดเชื้อกลายพันธุ์ ส่งผลให้สหรัฐอาจเกิดการระบาดระลอก 4

วันนี้( 2 มี.ค.64) นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี แพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวย้ำว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-บิออนเทค และโมเดอร์นาจำเป็นต้องฉีดให้ครบทั้ง 2 โดส และให้เหตุผลว่า หากการฉีดวัคซีนโดสสองล่าช้าออกไปแล้ว ชาวอเมริกันก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง การเปลี่ยนมาฉีดวัคซีนเข็มเดียวทำให้ประชาชนไม่ได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์มีโอกาสแพร่กระจาย ทั้งยังสร้างความหวาดระแวงในหมู่ชาวอเมริกันที่ลังเลที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนอยู่ก่อนแล้ว การฉีดวัคซีนให้ครบสองโดสนั้นช่วยสร้างประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้เพียงพอ ขณะที่การฉีดวัคซีนโดสเดียวอาจทำให้ชาวอเมริกันมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกลายพันธุ์ และอาจส่งผลเกิดการระบาดระลอก4


สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ เผยผล การศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ว่าการฉีดวัคซีน 1 โดสของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิผล 57-61% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการในบุคคลอายุตั้งแต่ 70 ปี


ขณะที่การฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ ในบุคคลอายุตั้งแต่ 70 ปี ในอัตรา 60-73% หลังการฉีดโดสแรก และโดยสรุปพบว่าการฉีดวัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งตั้งแต่เข็มแรก สามารถลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการหนักจากโควิด-19 ในกลุ่มผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ได้มากถึง 80% อย่างไรก็ตามวัคซีนทั้งสองยี่ห้อต้องฉีด 2 โดส ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์.


นอกจากนี้วัคซีนของไฟเซอร์ สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 80 ปี ได้ประมาณ 83% แต่ยังไม่มีข้อมูลของวัคซีนแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด เนื่องจากเริ่มการทดสอบช้ากว่า  


สาธารณสุขของฝรั่งเศส ไม่มีทางเลือก ตัดสินใจยอมให้ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกากับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป หลังที่ก่อนหน้านี้ห้ามใช้และให้ฉีดเฉพาะกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปีเท่านั้น หลังมีผลการศึกษาในเวลาต่อมาพบว่าวัคซีนจากแอสตราเซเนกาใช้ได้ผลดีในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่เนื่องจาก การระบาดของโควิดยังมีอยู่ จึงต้องรีบดำเนินการในส่วนของคนอายุ 75 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะใช้วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐฯ


ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลง จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยังเพิ่มสูงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์


นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ “น่าผิดหวัง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร” และเรียกร้องให้หลายประเทศอย่าผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในการต่อสู้กับไวรัสร้ายนี้    ล่าสุดทั่วโลกป่วยโควิด-19 สะสมทะลุ 115 ล้านคน 115,069,189)เสียชีวิตกว่า 2.5 ล้านคน พบวันเดียวเพิ่ม 2.8 แสน ดังนั้นยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วหลังเริ่มการฉีดวัคซีน


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง