ผงะ!บราซิลพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาดหนักแถบป่าแอมะซอน

วันนี้ ( 23 ม.ค. 64 )คณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งนำโดยอีสเตอร์ ซาบีโน นักภูมิคุ้มกันวิทยา ได้รวบรวมข้อมูลด้านจีโนมจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเมืองมาเนาส์ พบว่า 42 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด เป็นการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งคล้ายกับสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในอังกฤษและแอฟริกาใต้

 

ซาบีโน ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเซาเปาลู ซึ่งผลเบื้องต้นของคณะของเขา ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Virological.org ระบุว่า นั่นคือความถี่ที่ปรากฏอยู่ในข้อมูลของเดือนธันวาคม เรากำลังจะเสร็จสิ้นการตรวจสอบข้อมูลในเดือนมกราคม และการระบาดกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอบอกว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในบราซิล แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ปัจจุบัน

 

ส่วนคณะแพทย์บราซิล แถลงว่า เมืองมาเนาส์ เมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคป่าแอมะซอน กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในขณะนี้ จากการระบาดรอบ 2 ซึ่งผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และถังออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในบ้านของตัวเอง และในแผนกผู้ป่วยหนักด้วย

 

เมืองมาเนาส์ คัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ และไม่มีการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing ด้วย แต่บรรดานักวิจัย เชื่อว่า การติดเชื้อโควิดเลวร้ายลงเกิดจากไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งถูกตรวจพบในญี่ปุ่นเมื่อสองสัปดาห์ก่อนด้วย หลังจากมีประชาชน 4 คนเดินทางจากเมืองมาเนาส์ เข้าญี่ปุ่น

 

ซาบีโน เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิลเสริมกำลังการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสในเมืองมาเนาส์ และพื้นที่โดยรอบ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังทั่วบราซิลด้วยเช่นกัน

 

ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ในบราซิล ที่มีชื่อว่า พี.1 (P.1) ซึ่งเกิดการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่เรียกว่า N501Y และ E484K ถูกตรวจพบในตัวอย่างการตรวจหาเชื้อที่เรียกว่า พีซีอาร์ (PCR) ของผู้ติดเชื้อ 13 ใน 31 ตัวอย่างที่รวบรวมในเมืองมาเนาส์ระหว่างวันที่ 15-23 ธันวาคม แต่การตรวจระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน ไม่มีตัวอย่างจีโนม ซึ่งตอกย้ำให้รู้ว่าไวรัสเกิดขึ้นและระบาดซ้ำอย่างรวดเร็วอย่างไร

 

มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการระบาดมากขึ้นจากโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ทางกลุ่มนักวิจัย เรียกร้องให้สำนักงานการบินพลเรือน ตั้งจุดเฝ้าระวังในสนามบินใหญ่ ๆ เพื่อตรวจคัดกรองบรรดาผู้โดยสารที่เดินทางจากเมืองมาเนาส์ เมืองในแถบป่าแอมะซอน ซึ่งส่วนใหญ่เข้าได้ทางเครื่องบิน หรือเรือเท่านั้น

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline