อ็อกซ์ฟอร์ด เตรียมผลิตวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่ สู้โควิดกลายพันธุ์

อ็อกซ์ฟอร์ด - แอสตราเซเนกา เตรียมผลิตวัคซีนเวอร์ชันใหม่สู้โควิด-19 กลายพันธุ์ หลังตอนนี้ระบาดไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

วันนี้( 21 ม.ค.64) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยืนยันว่า ขณะนี้เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ชที่พบครั้งแรกในอังกฤษ ได้ลุกลามไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลกแล้ว และมี 23 ประเทศที่พบเชื้อโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้โดยทั้ง 2 สายพันธุ์นี้สามารถติดต่อและระบาดได้ง่ายกว่าเดิม

ขณะที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กำลังเตรียมการสำหรับเร่งผลิตวัคซีนเวอร์ชันใหม่ เพื่อต่อสู้กับการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม ซึ่งถูกพบในอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิล

รายงานของเทเลกราฟที่อ้างคำยืนยันจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดระบุว่า คณะทำงานที่อยู่เบื้องหลังวัคซีนจากอ็อกฟอร์ดและแอสตราเซเนกา กำลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ต่างๆเพื่อจัดรูปแบบใหม่ทางเทคโนโลยี และประเมินอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับผลกรระทบของไวรัสกลายพันธุ์ต่อภูมิคุ้มกันของวัคซีน และประเมินกระบวนการต่างๆที่จำเป็นสำหรับเร่งรัดพัฒนาวัคซีนโควิด-19 เวอร์ชันใหม่

ส่วนแอสตราเซเนกา, โมเดอร์นา อิงค์ และ เคียวแวค (CureVac) กำลังทำการทดสอบเช่นกันว่าวัคซีนของพวกเขาจะสามารถช่วยป้องกันตัวกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมได้หรือไม่

สถาบันสาธารณสุขของชิลี ลงมติด้วยคะแนน 10 ต่อ 3 อนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด ที่ผลิตโดยบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ของจีน สำหรับการใช้ฉุกเฉินซึ่งจะครอบคลุมการฉีดวัคซีนของซิโนแวคจำนวน 10 ล้านโดส ให้แก่ชาวชิลีที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ทำการทดลองวัคซีนของซิโนแวคขั้นสุดท้ายในมนุษย์ และทุ่มงบประมาณทั้งหมด 3 ล้าน 5 แสนดอลลาร์ ในการทดลองวัคซีน และสั่งซื้อวัคซีนของซิโนแวคจำนวน 60 ล้านโดส เพื่อฉีดให้แก่ประชากรทั้งประเทศ 18 ล้านคนเป็นเวลา 3 ปี

ด้านกระทรวงวิทยาศาสตร์ชิลีเปิดเผยว่า วัคซีนของซิโนแวคล็อตแรก 2 ล้านโดส จะส่งไปถึงชิลีในวันจันทร์หน้า ซึ่งวัคซีนของซิโนแวค นับเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 2 ที่ได้รับการอนุมัติในชิลี ส่วนตัวแรกคือวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเท็ค และชิลีกำลังจะอนุมัติวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า/อ็อกซฟอร์ด เป็นตัวที่ 3 และได้สั่งซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าไปแล้ว 14 ล้าน 4 แสนโดส

ขณะที่จีนเป็นประเทศล่าสุดที่พบโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยพบในกรุงปักกิ่งที่เขตต้าซิง เป็น 2 รายแรกของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมผ่านมา ส่งผลให้กรุงปักกิ่ง ต้องประกาศล็อกดาวน์บางส่วนรวม 5 เขตในเมืองหลวงของจีน โดยประชาชน 1.6 ล้านคนใน 5 เขตที่ถูกล็อกดาวน์ถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน และยังมีคำสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมในเขตที่ถูกล็อกดาวน์ โดยให้เรียนออนไลน์ ทั้งยังห้ามการรวมกลุ่มตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปและงานแต่งงานควรเลื่อนออกไป ส่วนการจัดงานศพให้ทำอย่างเรียบง่ายที่สุด

ก่อนที่ตรุษจีนจะมาถึง เจ้าหน้าที่จีนกำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโควิดครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง และทางการจีนได้ขอร้องให้ 29 มณฑล งดเดินทางในวันตรุษจีนนี้

เกาะติดข่าวที่นี่