สธ.เผยพบการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในครอบครัวเพิ่มขึ้น

วันนี้ (14ม.ค.64) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า สัดส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างคนไทย และคนต่างชาติ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนใหญ่ ผู้ติดเชื้อเป็นคนไทย จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ส่วนภาคอื่นๆ ผู้ติดเชื้อเป็นคนไทย

ทั้งนี้ หาก 2 วันที่เหลือมีผู้ติดเชื้อรวมไม่เกิน 1,000 ราย สถานการณ์ก็จะเริ่มทรงตัวและจะเป็นสัญญาณผ่อนคลายมาตรการ

สำหรับผู้เสียชีวิต ระลอกแรก รวม 60 ราย ในช่วงต้นปี 2563 จนถึงกลางปี เมื่อเทียบกับตอนนี้การเสียชีวิตในระลอกแรกมากกว่า ระลอก2  โดยผู้ติดเชื้อในระลอกใหม่นี้ มีอายุไม่มากแต่พบว่ามีโรคประจำตัวเยอะ รวมถึงการระบาดระลอกใหม่ ผู้ติดเชื้ออายุน้อยและไม่แสดงอาการ ซึ่งสัดส่วนผู้เสียชีวิตไม่ต่างกันมาก ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ ที่นำไปสู่การเสียชีวิต

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ที่พบในผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อ หรือโรคประจำตัวอื่นๆ ซึ่งโรคเบาหวานเป็นตัวกระตุ้นให้อาการรุนแรงขึ้น

ขณะที่คนในครอบครัวของผู้ติดเชื้อต้องถูกตรวจหาเชื้อ และกักกันโรค เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง และมีโอกาสรับเชื้ออย่างใกล้ชิด เช่น จากการรับประทานอาหารการพูดคุยกัน จึงได้แนะนำ หากมีความจำเป็นต้องไปทำงานนอกบ้าน หรือไปสถานที่เสี่ยงมา กลับถึงบ้านต้องรีบอาบน้ำทันที ก่อนจะไปอุ้มลูก หอมภรรยา หรือพบปะพูดคุบกัน และให้ดูแลตัวเอง หากมีไข้ พยายามใส่หน้ากากอนามัย แยกรับประทานอาหาร หลีกหนีจากคนในครอบครัว เพื่อป้องกันการติดเชื้อกันเองในครอบครัว

สำหรับการติดเชื้อในครอบครัว ที่พบว่ามีเด็กเล็กติดเชื้อในช่วงหลัง ถึงแม้ในเด็กจะไม่มีอาการก็ตาม พบว่า การแพร่กระจายเชื้อโควิด-19  ตอนนี้ ไม่ได้แพร่กระจายในกลุ่มแรกที่จังหวัดสมุทรสาครแล้ว แต่มีการกระจายไปยังกลุ่มอื่นๆ เมื่อผู้ใหญ่ พ่อแม่ ไปสัมผัสผู้ใกล้ชิด หรือผู้ป่วย ซึ่งอาจจะไม่ทราบว่าติดเชื้อ แล้วกลับถึงบ้าน ทำให้แพร่ต่อคนในครอบครัวได้ง่าย เช่น ผู้เสียชีวิตล่าสุด ชายไทยอายุ 53 ปี ที่ ไปเยี่ยมแม่กับน้องสาว แล้วน้องสาวติดเชื้อด้วย จะเห็นว่า การแพร่เชื้อในครอบครัว เป็นจุดสำคัญ ที่จะต้องมีการป้องกัน ขอให้พื้นที่ควบคุม ประชาชนให้ช่วยลดการเดินทาง ออกไปยังพื้นที่ชุมชนคนหมู่มาก และเมื่อก่อนจะไปอุ้มลูก หอมภรรยา อาบน้ำก่อน

ทั้งนี้ ฝากย้ำถึงประชาชน ระหว่างรอผลตรวจเชื้อออกให้อยู่ กับบ้าน จนผลตรวจออกครบ2 ครั้ง หรือให้อยู่ครบ14 วัน ซึ่ง จากการสอบสวนโรค พบมากสุด คือ เมื่อผู้ติดเชื้อไปสัมผัสโรคมาแล้ว  หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง  แล้วไปตรวจยังโรงพยาบาล ระหว่างรอ ไม่ยอมกักตัวเอง ระหว่างผลตรวจยังไม่ออก มีการเดินทางข้ามจังหวัด เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้การแพร่ระบาดต่อเนื่อง  ถ้ารู้ว่าตัวเองเสี่ยง พยายามอยู่ในบ้านของตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในบ้าน ล้างมือบ่อยๆ  เว้นระยะห่าง แยกห้องนอนหากมีหลายห้อง

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE