TNN online หนุ่มลำปาง ติดโควิดรายแรก ไทม์ไลน์เที่ยวเชียงใหม่-ร่วมงานแต่ง

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

หนุ่มลำปาง ติดโควิดรายแรก ไทม์ไลน์เที่ยวเชียงใหม่-ร่วมงานแต่ง

หนุ่มลำปาง ติดโควิดรายแรก ไทม์ไลน์เที่ยวเชียงใหม่-ร่วมงานแต่ง

ผู้ว่าฯ ลำปาง แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย เปิดไทม์ไลน์ทำงานระยอง บินไปเที่ยวเชียงใหม่ ก่อนร่วมงานแต่งที่ลำปาง

วันนี้ (29 ธ.ค.63)  ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดลำปาง แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 1 คน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำปางรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 คน เป็นชาวลำปาง 20 คน ระยอง 2 ราย และเชียงใหม่ 1 คน มีสถานที่เสี่ยงจำนวน 16 แห่ง ใน 3 จังหวัด

โดยผู้ป่วยชายไทย อายุ 33 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง มีไทม์ไลน์ ดังนี้

วันที่ 25 ธันวาคม เดินทางจากจังหวัดระยองโดยเครื่องบิน จากสนามบินอู่ตะเภา สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 103 เวลา 18.45 น. ถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 21.00 น. พักค้างคืนที่เชียงใหม่ 1 คืน เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศรีษะ แต่ไม่ได้ไปรับการรักษา ซื้อยาทานเอง

วันที่ 26 ธันวาคม เช่ารถขับมาจังหวัดลำปางเพียงคนเดียว เข้าพักที่บ้านพักในตำบลต้นธงชัย

วันที่ 27 ธันวาคม ร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่บ้านห้วยทราย ตำบลต้นธงชัย ทั้งช่วงเช้าและเย็น

วันที่ 28 ธันวาคม ทราบข่าวว่าเพื่อนที่ระยองป่วย จึงมาขอตรจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ

จังหวัดลำปางได้ดำเนินการในเบื้องต้นแล้ว ดังนี้

1. ทีมสอบสวนโรคได้ทำการสำรวจค้นหา และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำแนกกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทั้งหมด 23 ราย ทุกรายได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจ ไม่พบเชื้อ โดยจะได้รับการตรวจยืนยันอย่างต่อเนื่องในวันที่ 5, 9 และ 14 หลังจากวันที่ได้รับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก โดยให้แยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Home Quarantine) สำหรับผู้สัมผัสซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน (Self Monitoring)

นอกจากนี้ได้แจ้งให้สายการบิน พร้อมทั้ง ทีมสอบสวนโรคที่จังหวัดเชียงใหม่รับทราบเพื่อดำเนินการควบคุมโรคในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

2. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

3. ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในหมู่บ้านในเรื่อง “การเฝ้าระวังและการปฏิบัติดูแลตนเอง” เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำผู้สัมผัสให้ป้องกันตนเองและผู้ใกล้ชิด โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำกับสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่สาธารณะ/ชุมชน และสังเกตอาการตัวเอง หากมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) ให้รีบพบเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการตรวจทันที

4. ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยทุกวันร่วมกับค้นหาผู้ที่มีอาการป่วยเพิ่มเติมในชุมชนโดยภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ

นอกจากนั้น จังหวัดลำปาง ได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ดังนี้

1) คัดกรองโควิด-19 ที่ด่านอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่

2) บันทึกข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดลำปาง ที่สถานีขนส่ง สนามบิน และสถานีรถไฟ

3) ให้ร้านค้า/สถานประกอบการ/สถานบริการ ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกแห่ง และต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด

4) ผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ห้ามเข้าสถานที่ราชการ หน่วยงานเอกชน ศาสนสถาน และสถานที่สาธารณะ

5) การจัดงานที่มีคนรวมกันเป็นจำนวนมาก ให้แจ้ง ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคระดับอำเภอ (ศปก.อำเภอ) และตรวจสอบกิจกรรมตามมาตรการ โดยต้องจำกัดจำนวนคน (กำหนดพื้นที่ 4 ตารางเมตร/คน)

6) ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด เช่น วัดสำคัญ ตลาดนัด ตลาดของฝาก ตลาดเซรามิก และอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

นอกจากนี้ จังหวัดลำปางมีแนวทางตรวจสอบ/ประเมินความเสี่ยงและการปฏิบัติในการป้องกัน เฝ้าระวังโรค COVID-19 กรณีมีผู้เดินทางไป หรือมาจากพื้นที่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ ดังนี้

1. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจาก ทุกพื้นที่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และ จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุม(สีส้ม)ให้พบเจ้าหน้าที่เพื่อรับการประเมินความเสี่ยงที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

2. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจาก สถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ให้พบเจ้าหน้าที่เพื่อรับการประเมินความเสี่ยงที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน สำหรับผู้ที่มาจากสถานที่อื่นที่ไม่ได้ระบุว่าพบผู้ป่วยยืนยัน

3. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังซึ่งยังไม่พบผู้ติดเชื้อ (สีเขียว) ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน /กำนัน/อสม.ในพื้นที่รับทราบด้วย และให้สังเกตเฝ้าระวังตนเอง พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดได้อธิบายเพิ่มเติมถึง ความหมายของกลุ่มเสี่ยง และแนวทางดำเนินการสำหรับกรณีผู้ติดเชื้อรายนี้ ดังนี้

กลุ่มเสี่ยงสูง (High Risk) หมายถึง

1) ผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ป่วยยืนยันในรัศมี 2 เมตร ในช่วงเวลามากกว่า 5 นาที และไม่ได้สวมหน้ากากป้องกัน

2) ผู้ร่วมงานแต่งงาน ที่นั่งโต๊ะ รอบๆโต๊ะที่ผู้ป่วยนั่ง ห่างไม่เกิน 2 เมตร

3) ผู้ที่สัมผัสและผู้ที่อยู่บ้านใกล้เคียง หรือผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน

ผู้ใดเข้าเกณฑ์ในข้างต้นต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และแยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Home Quarantine)โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามทุกวัน

กลุ่มเสี่ยงต่ำ (Low Risk) หมายถึง

1) ผู้สัมผัสในงานแต่งงาน ระยะห่างกันมากกว่า 2 เมตร

2) ผู้อยู่ใกล้ผู้ป่วยยืนยันในรัศมี 2 เมตร นานไม่ถึง 5 นาที และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาผู้ใดเข้าเกณฑ์ในข้างต้นต้องให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน (Self Monitoring) โดยจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขติดตามทุกวัน

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง