TNN online จนท.สาธารณสุขอลาสก้าแพ้ วัคซีนไฟเซอร์ แต่อาการปลอดภัยแล้ว

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

จนท.สาธารณสุขอลาสก้าแพ้ วัคซีนไฟเซอร์ แต่อาการปลอดภัยแล้ว

จนท.สาธารณสุขอลาสก้าแพ้ วัคซีนไฟเซอร์ แต่อาการปลอดภัยแล้ว

จนท.สาธารณสุขในรัฐอลาสก้า แพ้วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของไฟเซอร์ แต่อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว

วันนี้ ( 17 ธ.ค. 63 )หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสรายหนึ่ง เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ของบริษัท ไฟเซอร์ และ ไบโอเทค (Pfizer Inc and BioNTech ) แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ที่ยังไม่มีการเปิดเผนชื่อและรายละเอียดอื่นๆ มีอาการดีขึ้น โดย สภาพร่างกายเริ่มคงที่ 


เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่แพ้วัคซีนของไฟเซอร์ รายนี้ มีอายุอยู่ในวัยกลางคน เคยมีประวัติเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มาก่อน เริ่มมีอาการภูมิแพ้กำเริบหลังจากฉีดวัคซีน และยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในเมืองจูโน่ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอลาสก้า โดยแพทย์เชื่อว่า อาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต 


ด้านองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA ยืนยันว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ไม่มีอาการแพ้วัคซีนของไฟเซอร์ในขั้นรุนแรง ,จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ ยังคงชี้ให้เห็นว่าวัคซีนของไฟเซอร์ ปลอดภัย   


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  เจ้าหน้าที่ของ ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ หรือ NHS  จำนวน 2 คน ที่มีประวัติการแพ้อาหาร และแพ้ยา ขั้นรุนแรง ในระดับ ที่ต้องพกพา อะดรีนาลีน เพน “ ( “adrenaline pens “ ) ซึ่งยรรจุยาแก้แพ้ ที่ผู้ป่วยสามารถฉีดตัวยาเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยตนเองยามฉุกเฉินอยู่ตลอดเวลา เกิดอาการแพ้ หลังได้รับวัคซีนจาก ไฟเซอร์ 


สำหรับผู้ที่แพ้วัคซีน จะเกิดผื่นคันที่ผิวหนัง , มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ  และมีความดันโลหิตต่ำในบางช่วง แต่จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากได้รับการดูแลจากแพทย์


ดังนั้น หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอังกฤษ หรือ MHRA ให้คำแนะนำว่า ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา และ แพ้อาหาร อย่างรุนแรง ไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ของ ไฟเซอร์ จนกว่านักวิจัยจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้ยาที่ชัดเจนกว่านี้ 


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง