วิจัยฮาวาร์ดชี้ ติด "โควิด-19" บนเครื่องบินมีไม่ถึง 1%

ผู้บริหารสายการบินในสหรัฐฯ อ้างผลการศึกษาของวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮาวาร์ด โอกาสติด "โควิด-19" บนเครื่องบินมีน้อยกว่า 1%

วันนี้( 30 ก.ย.63) สายการบินเจ็ตบลูแอร์เวย์ เปิดเผยผ่านการประชุมประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารจากสายการบินรายใหญ่ของสหรัฐทุกสายการบิน ว่า เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ท่ามกล่างวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจไม่ต้องใช้วัคซีนหรือแม้แต่แผนการทดสอบที่ครอบคลุม หลังจากวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮาวาร์ด ได้เผยผลงานวิจัยที่จะสามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างมาก โดยพบว่า การสวมหน้ากากอนามัยในร่มให้ประสิทธิภาพเช่นเดียวกับระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูงบนเครื่องบิน ทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่า 1% ในการแพร่เชื้อโควิด-19

ขณะเดียวกันศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้คน 11,000 คนในสหรัฐฯ อาจได้รับเชื้อไวรัสบนเที่ยวบิน ซึ่งสายการบินยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19บนเครื่องบินทั้งการฉีดพ่นยาฆ่าเเชื้อและปิดกั้นที่นั่งตรงกลาง

ในขณะที่สายการบินเจ็ตบลูเรียกร้องให้มีการรณรงค์สร้างความตระหนักถึงงานวิจัยของฮาวาร์ด ซึ่งจะทำให้การโดยสารบนเครื่องบินปลอดภัยเช่นเดียวกับการเดินทางไปร้านขายของชำ โดยยูไนเต็ด แอร์ โฮลดิงส์ ระบุว่า ขณะนี้พนัดงาน 100,000 ตำแหน่งตกอยู่ในความเสี่ยง และสิ่งต่างๆยังไม่น่าจะดีขึ้นจนกว่าจะมีวัคซีนแพร่หลาย เช่นเดียวกับอเมริกันแอร์ไลน์ ที่ระบุว่า โควิด-19 เป็นวิกฤตหนึ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เคบประสบมา

เกาะติดข่าวที่นี่