TNN online 5 ประเทศโควิดยังไม่คลี่คลาย เปิดสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไร?

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

5 ประเทศโควิดยังไม่คลี่คลาย เปิดสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไร?

5 ประเทศโควิดยังไม่คลี่คลาย เปิดสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไร?

องค์การอนามัยโลกแถลงสถานการณ์ล่าสุด 5 ประเทศโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย เปิดสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไร?

องค์การอนามัยโลกแถลงสถานการณ์ล่าสุด 5 ประเทศโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย เปิดสาเหตุเกิดจากปัจจัยอะไร?


ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ - คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics โดยระบุว่า องค์การอนามัยโลกแถลงสถานการณ์ล่าสุดของการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายต่อเนื่อง ยกเว้นบางประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกอัน ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปัจจัยหลักน่าจะมาจากอายุขัยเฉลี่ยของประชากร (life expectancies) ที่สูงมาก

- ในระยะเวลา 28 วันที่ผ่านมา 5 ใน 6 ภูมิภาคที่องค์การอนามัยโลกกำหนดแบ่งเขตมีรายงานจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นบางประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกที่เพิ่มขึ้น

https://apps.who.int/.../nCoV-weekly-sitrep27Jul23-eng...

- ประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุดล่าสุด ได้แก่ เกาหลี ออสเตรเลีย สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และ บราซิล

- ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่มากที่สุดล่าสุด ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลีย รัสเซีย เปรู และ บราซิล

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

- ในระยะเวลา 28 วัน ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงใน 5 ภูมิภาคจาก 6 ภูมิภาคที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ได้แก่ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก (-75%) ยุโรป (-72%) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (-70%) แอฟริกา (-48%) และอเมริกา (-35%) อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น (+8%)

- จำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่งรายงานในช่วง 28 วันก็ลดลงเช่นกันใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก (-77%) ยุโรป (-74%) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (-70%) แอฟริกา (-48%) %) และอเมริกา (-31%) แต่ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น (+23%)

- ในระดับประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดภายในระยะเวลา 28 วันมาจากสาธารณรัฐเกาหลี (+60%, 593,023 เคส), บราซิล (-37%, 48,548 เคส), ออสเตรเลีย (-68%, 35,873 เคส ), สิงคโปร์ (-25%, 30,214 เคส) และนิวซีแลนด์ (-47%, 20,329 เคส)

- รายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่มากที่สุดในช่วง 28 วัน ได้แก่ บราซิล (-27%, 769 คนเสียชีวิต), ออสเตรเลีย (+82%, 623 คนเสียชีวิต), รัสเซีย (-35%, 336 คนเสียชีวิต), เปรู (-13%, เสียชีวิต 218 ราย) และสาธารณรัฐเกาหลี (-3% เสียชีวิต 199 ราย)

หากพิจารณาถึง 6 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการระบาดและเสียชีวิตของโควิด-19 กล่าวคือ

1. **อัตราการฉีดวัคซีน**: อัตราการฉีดวัคซีนในภูมิภาคสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่และผู้เสียชีวิต หากภูมิภาคใดมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ อาจมีความเสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วย

2. **มาตรการด้านสาธารณสุข**: การดำเนินการ การปฏิบัติตาม และการบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในแต่ละภูมิภาค เช่น กินร้อน ช้อนกลาง การใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการปิดเมือง สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออัตราผู้ป่วยรายใหม่และผู้เสียชีวิต .

3. **สายพันธุ์**: การเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจแพร่ระบาดหรือร้ายแรงกว่า อาจนำไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้

4. **ความสามารถในการติดตามผู้ติดต่อสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 (close contact tracing)  ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รายงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตรวจพบผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถระบุได้

5. **ความหนาแน่นของประชากร การเคลื่อนย้าย และข้อมูลประชากร**: ภูมิภาคที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงหรือการเคลื่อนย้ายของประชากรในระดับสูงสามารถสัมผัสกับการแพร่กระจายของไวรัสได้เร็วกว่า นอกจากนี้ ภูมิภาคที่มีประชากรสูงอายุจำนวนมากหรืออายุขัยที่สูงกว่าอาจพบผู้ป่วยหรือเสียชีวิตที่รุนแรงกว่า เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีความเสี่ยงสูงต่อผลลัพธ์ที่รุนแรงจาก COVID-19

6. **ความสามารถของระบบการดูแลสุขภาพ**: ความแข็งแกร่งและความสามารถของระบบการรักษาพยาบาลของภูมิภาคอาจส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตจากโควิด หากระบบการรักษาพยาบาลล้มเหลว อาจนำไปสู่อัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น

จะเห็นได้ว่าประเทศ เกาหลี สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย มีอัตราผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงกว่าหลายประเทศทั่วโลก แม้ว่าประเทศหล่านี้จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีอัตราผู้ได้รับการฉีดวัคซีนสูงกว่าในหลายประเทศ มีมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขในการติดเชื้อโควิด-19 ยอดเยี่ยม มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 

(เช่นเดียวกับประเทศไทย) และมีความสามารถในการติดตามผู้ที่ติดต่อสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 (close contact tracing ) ที่มีประสิทธิภาพ มีการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB ที่ไม่ต่างไปจากซีกโลกอื่น มีระบบการรักษาพยาบาลที่แข็งแกร่ง  

ส่วนความหนาแน่ประชากร สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับสามของโลก ความหนาแน่นของประชากรไทยต่ำกว่าสิงคโปร์และเกาหลีใต้ แต่สูงกว่าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 

- สิงคโปร์: ความหนาแน่นของประชากรสูง (7,584.9 คน/ตร.ม.)

- เกาหลีใต้: ความหนาแน่นของประชากรปานกลาง (527 คน/ตร.ม.)

- ประเทศไทย: ความหนาแน่นน้อยถึงปานกลาง139.93 คน/ตร.ม

- ออสเตรเลีย: ความหนาแน่นของประชากรต่ำ (3.3 คน/ตร.ม.)

- นิวซีแลนด์: ความหนาแน่นของประชากรต่ำ (18.2 คน/ตร.ม

ดังนั้นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศเหล่านี้มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่และผู้เสียชีวิตสูงกว่าในหลายประเทศทั่วโลกน่าจะมีปัจจัยหลักมาจากอายุขัยเฉลี่ยของประชากร (life expectancies) สูงมาก ในขณะผู้ป่วยโควิด-19 และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในแอฟริกาต่ำสอดคล้องไปกับอายุขัยปัจจุบันของแอฟริกาในปี 2566 คือ 62 ปี

1. สิงคโปร์: อายุขัยเฉลี่ย 86.35 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 83.65 ปีสำหรับผู้ชาย และ 89.20 ปีสำหรับผู้หญิง 

2. สาธารณรัฐเกาหลี: อายุขัยเฉลี่ย 85.03 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 81.91 ปีสำหรับผู้ชาย และ 87.97 ปีสำหรับผู้หญิง

3. ออสเตรเลีย: อายุขัยเฉลี่ย 83.8 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 81.52 ปีสำหรับผู้ชาย และ 86.21 ปีสำหรับผู้หญิง

4. นิวซีแลนด์: อายุขัยเฉลี่ย 82.21 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 80.50 ปีสำหรับผู้ชาย และ 84.00 ปีสำหรับผู้หญิง

5. ประเทศไทย: อายุขัยเฉลี่ย 75.3 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 72.4 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.3 ปีสำหรับผู้หญิง

6. บราซิล: อายุขัยเฉลี่ย 72.8 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 69.6 ปีสำหรับผู้ชาย และ 76.0 ปีสำหรับผู้หญิง

7. รัสเซีย: อายุขัยเฉลี่ย 72.99 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 67.62 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.15 ปีสำหรับผู้หญิง

8. เปรู: อายุขัยเฉลี่ย 75.5 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 72.5 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.5 ปีสำหรับผู้หญิง

9. แอฟริกา อายุขัยเฉลี่ย 62 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 61 ปี สำหรับผู้ชาย และ 64 ปีสำหรับผู้หญิง

https://en.wikipedia.org/.../List_of_countries_by_life...

ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้กลุ่มเปราะบาง 608 ได้รับวัคซีนครบโดส และได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ตามเวลาที่กำหนด

หมายเหตุ กลุ่มเปราะบาง 608 คือกลุ่มคนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากที่สุดนั่นคือกลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่

โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

โรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคไตวายเรื้อรัง

โรคหลอดเลือดสมอง

โรคอ้วน

โรคมะเร็ง

โรคเบาหวาน

และ+1 คือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีอาการรุนแรงของโรคมากหากติดเชื้อโควิด-19

37 ประเทศที่อยู่ในดินแดนและพื้นที่ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ประเทศและพื้นที่เหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ทุ่งหญ้าสเตปป์มองโกเลียในเอเชียกลางไปจนถึงหมู่เกาะพิตแคร์นในมหาสมุทรแปซิฟิก และทางใต้ถึงนิวซีแลนด์ ส่วนประเทศไทยไม่ได้จัดอยู่ในภูมิภาคนี้ กล่าวคือ

อเมริกันซามัว (สหรัฐอเมริกา), ออสเตรเลีย, บรูไนดารุสซาลาม, กัมพูชา, จีน, หมู่เกาะคุก, ฟิจิ, เฟรนช์โปลินีเซีย (ฝรั่งเศส), กวม (สหรัฐอเมริกา), ฮ่องกง (จีน), ญี่ปุ่น, คิริบาส, สาธารณรัฐ เกาหลี, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, มาเก๊า, มาเลเซีย, หมู่เกาะมาร์แชลล์, สหพันธรัฐไมโครนีเซีย, มองโกเลีย, นาอูรู, นิวแคลิโดเนีย (ฝรั่งเศส, นิวซีแลนด์, นีอูเอ, หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา, ปาเลา, ปาปัวนิวกินี, ฟิลิปปินส์, หมู่เกาะพิตแคร์น (สหราชอาณาจักร), ซามัว, สิงคโปร์, หมู่เกาะโซโลมอน, ไต้หวัน, โตเกเลา, ตองกา, ตูวาลู, วานูอาตู, เวียดนาม




ข้อมูลจาก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์

ภาพจาก AFP TNN ONLINE

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง