โควิดในไทยคาดปะทุรุนแรงขึ้นอีกหลังกลางม.ค. ย้ำสิ่งนี้? จำเป็น-สำคัญที่สุด
จับตา! โควิดในไทยมีโอกาสที่จะปะทุรุนแรงขึ้นอีกหลังกลางมกราคมเป็นต้นไป ย้ำสิ่งนี้? จำเป็นและสำคัญที่สุด
จับตา! โควิดในไทยมีโอกาสที่จะปะทุรุนแรงขึ้นอีกหลังกลางมกราคมเป็นต้นไป การไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนดเป็นเรื่องจำเป็น สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยง
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 29 ธันวาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 433,725 คน ตายเพิ่ม 998 คน รวมแล้วติดไป 663,125,009 คน เสียชีวิตรวม 6,690,224 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฝรั่งเศส และฮ่องกง
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.81 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 90.68
...ซุปสายพันธุ์ทั่วทุกทวีปของโลก
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสายพันธุ์ไวรัสโรคโควิด-19 ทั้งจากยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นสะท้อนให้เราทราบว่า ไม่ว่าจะอยู่ในทวีปใด ก็ตาม การระบาดที่กำลังเผชิญอยู่นั้นเกิดจากหลากหลายสายพันธุ์ย่อยผสมกันอย่างมาก แตกต่างจากระลอกก่อนๆ ที่มีสายพันธุ์หลักสำหรับทั่วโลก
...ประเมินสถานการณ์ไทย
ประเทศไทยซึ่งเปิดเสรีการเดินทางและท่องเที่ยว ย่อมมีแนวโน้มสูงที่จะอยู่ในสภาพระบาดแบบซุปสายพันธุ์แน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวจากทางการว่า BA.2.75 เป็นตัวหลักก็ตาม คาดว่าปัจจุบันเรามีการติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันมากกว่า 2.5-3 หมื่นคน และมีโอกาสที่จะปะทุรุนแรงขึ้นอีกหลังกลางมกราคมเป็นต้นไป
สายพันธุ์ย่อยที่จะเข้ามามีอิทธิพล ย่อมหนีไม่พ้นตัวที่ทั่วโลกจับตาเฝ้าระวัง ได้แก่ BQ.1.x, XBB.1.x, CH.1.1 และมีโอกาสเช่นกันสำหรับ BF.7 ซึ่งระบาดรุนแรงมากในจีนขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ต้นเดือนหน้าที่จีนประกาศเปิดประเทศ
ตระกูล BQ และ BF นั้นสืบเชื้อสายมาจาก BA.5 ส่วน XBB และ CH นั้นมาจาก BA.2
ทั้ง BQ.1.x และ XBB.1.x ขึ้นชื่อเรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกัน โดยตระกูล XBB ได้รับการพิสูจน์ว่าดื้อมากกว่าทุกสายพันธุ์ที่มีมา และงานวิจัยล่าสุดของ Cao YL จากจีน ได้ชี้ให้เห็นว่า XBB.1.5 ซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่พร้อมสมรรถนะที่สามารถจับกับตัวรับ ACE2 ที่เซลล์เป้าหมายได้แน่นขึ้น ทำให้เห็นการขยายตัวของการระบาดในหลายประเทศอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา
...วัคซีนรุ่นใหม่ Bivalent vaccines เป็นอาวุธที่มีความจำเป็นในการต่อสู้ศึก
Sato Lab ประเทศญี่ปุ่น เผยผลศึกษาในหนู โดยพบว่า ต่อให้เคยติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 (ที่กำลังระบาดในไทยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน) หากไปเจอกับ XBB.x และ BQ.1.x ภูมิที่เกิดจาก BA.2.75 ก็ดูจะเอาไม่อยู่เช่นกัน
Cao YL จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ก็ชี้ให้เห็นว่า แม้คนที่เคยได้ CoronaVac มา 3 เข็มแล้วติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ BF.7 (ที่ระบาดหนักขณะนี้ในจีน) ก็พบว่าระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดหรือแอนติบอดี้ที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อก็มีระดับค่อนข้างต่ำที่จะสู้กับ XBB.1 และ XBB.1.5
...คำถามที่สำคัญเกี่ยวกับชีวิตทุกคนในสังคม
ข่าวคราวหนาหูในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไทยเราอาจยังไม่นำวัคซีน Bivalent เข้ามาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายประเทศได้เริ่มจัดหาให้แก่ประชาชนของเค้ามาหลายเดือนแล้ว
หากข่าวข้างต้นเป็นจริง ก็จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ให้ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อให้ทุกคนในสังคมหายคลางแคลงใจ
"เหตุใดจึงไม่เอา Bivalent vaccines เข้ามาใช้?"
นี่คือคำถามที่หมอจำนวนไม่น้อยกำลังตั้งคำถามต่อหน่วยงานนโยบาย และทีมวิชาการที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลความรู้จากการศึกษาวิจัยนั้นมีความชัดเจน และนโยบายจากประเทศต่างๆ ก็มีให้เห็นกันอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผล และประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนไปใช้ Bivalent vaccines ทั้งในเรื่องระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ย่อยที่เกิดขึ้น และประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย
ประเทศต่างๆ ล้วนเปิดเผยรายละเอียดทั้งรายชื่อกรรมการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ รวมถึงข้อมูลวิชาการที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ แถมบางประเทศยังมีการถ่ายทอดสดเพื่อให้สาธารณะได้ร่วมรับฟังและซักถาม ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
บทเรียนในอดีตตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น...ควรเรียนรู้ว่าทำอะไรไป เกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุใด และปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม
นี่คือคำถาม ที่เป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมือง ที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตยามวิกฤติครับ
...สำหรับประชาชน จำเป็นต้องดำรงชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท รู้เท่าทันสถานการณ์ เลี่ยงกิจกรรมและสถานที่เสี่ยง
การไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนดเป็นเรื่องจำเป็น
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
หน้าเทศกาล...เดินทางปลอดภัย...ไม่ประมาท...ป้องกันตัวเองให้ดี
ข้อมูลจาก รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
ภาพจาก TNN ONLINE / รอยเตอร์