จับตาโควิด"โอมิครอน"สายพันธุ์ย่อยใหม่ แพร่เชื้อเร็ว-เสี่ยงติดซ้ำ

วันนี้ (5 พ.ค.65) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า ขณะนี้ เชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.12.1 ครองสัดส่วนร้อยละ 36.5 ของผู้ป่วยใหม่ ในช่วงสัปดาห์สิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26.6 ของสัปดาห์ก่อน 

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ หรือราวร้อยละ 61 ติดเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2  จนกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

ด้านสำนักสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กประกาศการอุบัติของสายพันธุ์ดังกล่าวเมื่อกลางเดือนเมษายน และพบสัดส่วนผู้ติดเชื้อร้อยละ 41.6 ซึ่งสายพันธุ์ย่อยนี้ถูกจัดเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลยิ่งขึ้น เพราะมีการกลายพันธุ์เพิ่มเติม

โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี ระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2.12.1 สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ย่อย BA.2 ราวร้อยละ 25 และขณะนี้กำลังประเมินเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลกระทบของสายพันธุ์ย่อย BA.2.12.1 ต่อประสิทธิภาพของวัคซีน

นอกจากสายพันธุ์ย่อยBA.2.12.1 แล้ว ยังมีเชื้อไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อยชนิดใหม่อีก 2 ชนิด ได้แก่ สายพันธุ์ย่อย BA.4 และBA.5 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ผู้เคยติดเชื้อก่อนหน้านี้ จะติดเชื้อซ้ำอีกครั้งได้

ภาพจาก AFP