TNN online ผลศึกษายืนยันฉีดวัคซีน 2 เข็มบวกเข็มกระตุ้น หายป่วยโอมิครอนเร็วกว่าเดลตา

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

ผลศึกษายืนยันฉีดวัคซีน 2 เข็มบวกเข็มกระตุ้น หายป่วยโอมิครอนเร็วกว่าเดลตา

ผลศึกษายืนยันฉีดวัคซีน 2 เข็มบวกเข็มกระตุ้น หายป่วยโอมิครอนเร็วกว่าเดลตา

ผลการศึกษายืนยันผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มและฉีดเข็มกระตุ้นจะหายจากอาการติดเชื้อโอมิครอน ได้เร็วว่าเดลตา 3 วัน รวมทั้งยังสูญเสียประสาทรับรู้กลิ่นน้อยกว่าด้วย

วันนี้ ( 9 เม.ย. 65 )ผลการศึกษาฉบับหนึ่ง ที่เผยแพร่ใน นิตยสารการแพทย์ แลนเซต เมื่อวานนี้ (วันศุกร์)  พบว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ จะฟื้นตัวจากอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา ระยะเวลา 3 วัน นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ประชาชนที่ติดเชื้อโอมิครอน มีโอกาสน้อยในการสูญเสียประสาทการรับรู้กลิ่น พร้อมยืนยันผลการวิจัยก่อนหน้านี้ว่า โอมิครอน มีความอันตรายน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการค้นหาความแตกต่างในการทำให้ป่วยระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน และเดลตา บรรดานักวิจัยใช้แอปพลิเคชั่นหนึ่งในสมาร์ทโฟน ซึ่งมีผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 63,000 คนในอังกฤษ อายุระหว่าง 16-99 ปี ที่รายงานอาการป่วยโควิด-19 ระหว่างเดือนมิถุนายน 2021 และมกราคม 2022 พบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม บวกกับเข็มกระตุ้นภูมิ อาการจากป่วยจากเชื้อโอมิครอน จะใช้เวลาเฉลี่ย 4.4 วัน ในการฟื้นตัว ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ สายพันธุ์เดลตา ที่ใช้เวลา เฉลี่ย 7.7 วัน 

ผลการศึกษาที่เผยแพร่ ยังระบุข้อมูลว่า คนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม แต่ไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้นภูมิ พบว่า อาการป่วยจากเชื้อโอมิครอน จะฟื้นตัวใน 8.3 วัน ขณะที่สายพันธุ์เดลตา  จะใช้เวลา 9.6 วัน

นักวิจัย กล่าวว่า การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วแสดงให้เห็นว่า ระยะเวลาของการติดเชื้ออาจสั้นลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านสุขภาพในที่ทำงานและคำแนะนำด้านสาธารณสุข 

ผลการศึกษาชิ้นนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมเกี่ยวกับโรคติดต่อและจุลชีววิทยาภาคพื้นยุโรป ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ในช่วงปลายเดือนนี้ ยังพบด้วยว่า มีเพียงร้อยละ 17 ของผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอน สูญเสียการรับกลิ่น เมื่อเทียบกับร้อยละ 53 ของการติดเชื้อเดลตา

อย่างไรก็ตาม คนที่ติดเชื้อโอมิครอน มีถึงร้อยละ 55 เพิ่มความเสี่ยงที่จะป่วยเจ็บคอมากขึ้น และมีโอกาสเป็นเสียงแหบมากขึ้นร้อยละ 24 และยังพบด้วยว่า ผู้ป่วยโอมิครอน ร้อยละ 25 มีโอกาสน้อยที่จะถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

ภาพจาก : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง