UCEP Plus เริ่มวันนี้! เปิดอาการเข้าเกณฑ์ ผู้ป่วย"สีเขียว-เหลือง-แดง"ต้องโทรเบอร์ไหน
16 มี.ค.นี้ รักษาพยาบาลตามสิทธิ และ UCEP Plus ฟรี ผู้ป่วยโควิด-19 "สีเขียว-เหลือง-แดง" ต้องโทรเบอร์ไหนเช็กเลย
เพจเฟซบุ๊ก กระทรวงสาธารณสุข แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามสิทธิ และ UCEP Plus สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ (16 มี.ค.) เป็นต้นไป
ผู้ป่วยสีเขียว
อาการ
-ไม่มีอาการ
-มีไข้อุณหภูมิ 37.5 องศาขึ้นไป
-ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่รับกลิ่น
-ไอมีน้ำมูก เจ็บคอ
-ตาแดง มีผื่น ถ่ายเหลว
รักษาฟรีใน รพ.ตามสิทธิ
บัตรทอง ข้าราชการ ประกันสังคม ประกันสุขภาพสิทธิประกันสังคม ทำงานต่างพื้นที่เข้า รพ.เครือข่ายได้
การรักษา
-กักตัวที่บ้าน (HI)
-กักตัวในชุมชน (CI) หรือ Hospitel
-เข้าโครงการ "เจอ แจก จบ" ที่หน่วยบริการใกล้บ้าน
ช่องทางติดต่อ
สปสช. 1330 กด 14
ประกันสังคม 1506
กรม สบส. 1426
ผู้ป่วยสีเหลือง
อาการ
-แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
-หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย
-ปอดอักเสบ
-ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน
-เด็ก มีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนม
-หรือทานอาหารน้อยลง
-กลุ่ม 608 / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป / เป็นโรคเรื้อรัง / หญิงตั้งครรภ์ / อ้วน น้ำหนักเน 90 กก.
การรักษา
-รักษาฟรีใน รพ. ตามสิทธิหรือ
-UCEP PLUS
-รักษาฟรีทุก รพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน
ช่องทางติดต่อ
สปสช. 1330 กด 14 (ขอรับเตียง)
สพฉ. 1669
กรม สบส. 1426 (ขอรับเตียงในระบบ 1330)
สอบถามสิทธิ UCEP PLUS : 02-872-1669
ผู้ป่วยสีแดง
อาการ
-หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยคขณะสนทนา
-แน่นหน้าอก หายใจเจ็บหน้าอก
-ปอดอักเสบรุนแรง
-มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า ซึมลง
-มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
-ค่าออกซิเจนน้อยกว่า 94%
การรักษา
-รักษาฟรีใน รพตามสิทธิหรือ
-UCEP PLUS รักษาฟรีทุก รพ. ทั้งภาครัฐและเอกชน
ช่องทางติดต่อ
สปสช. 1330 กด 14 (ขอรับเตียง)
สพฉ. 1669
กรม สบส. 1426 (ขอรับเตียง ในระบบ 1330)
สอบถามสิทธิ UCEP PLUS : 02-872-1669
ทั้งนี้ UCEP Plus ผู้ติดเชื้ออาการสีเหลืองและสีแดง สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทุกแห่งจนหายป่วย ไม่จำกัดแค่ 72 ชั่วโมงเหมือน UCEP ปกติ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการรุนแรงขึ้นจำเป็นต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นในเครือข่ายจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากผู้ป่วยหรือญาติประสงค์จะไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเครือข่าย จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนผู้ป่วยอาการสีเขียวจะให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีแดง สามารถส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นโดยใช้สิทธิ UCEP Plus ได้เช่นกัน
UCEP Plus ต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR เป็นบวก ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
1.ภาวะหัวใจหยุดเต้น มีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า ซึมลง(เมื่อเทียบกับระดับความรู้สึกเดิม) หรือกำลังชักเมื่อแรกรับที่จุดคัดแยก หรือ
2.มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หรือหายใจเร็วมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่ หรือออกซิเจนในเลือดเมื่อแรกรับน้อยกว่า 94% หรือมีระดับออกซิเจนลดต่ำลงกว่าภาวะปกติ 3% เมื่อออกแรง หรือโรคประจำตัวเปลี่ยนแปลงรุนแรง หรือจำเป็นต้องรับการติดตามใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์ หรือในเด็กมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือกินอาหารน้อยลง หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์
3.มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย คือเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังโรคปอดเรื้อรังอื่นๆ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุมไม่ได้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ และเม็ดเลือดขาวน้อยกว่า 1,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร หรืออื่น ๆ ตามดุลยพินิจของผู้คัดแยกโดยการใช้สิทธิ สามารถโทรแจ้ง 1669 โรงพยาบาลจะประเมินอาการและรักษาเบื้องต้น และกรอกรายละเอียดอาการผ่านโปรแกรม PA ของ สพฉ. หากเข้าเกณฑ์ UCEP Plus จะสามารถใช้สิทธิได้ทันที ทั้งนี้ สพฉ.ได้เตรียมศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หมายเลข 02-872-1669 เพื่อให้คำปรึกษากรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาในการใช้สิทธิ รวมถึงสถานพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่ง ก็ใช้ในการประสานงานกรณีมีข้อติดขัดการลงข้อมูลผ่านระบบเช่นกัน
การใช้สิทธิ UCEP Plus ผู้ติดเชื้อสิทธิบัตรทองกลุ่มอาการสีเหลืองหรือสีแดง ยังเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลใดก็ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นค่าห้องพิเศษหรืออาหารพิเศษนอกเหนือสิทธิประโยชน์
ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ไปรับบริการสถานพยาบาลปฐมภูมิในระบบบัตรทองได้ทุกที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือแดง สามารถส่งต่อไปโรงพยาบาลเอกชนเพื่อรับการรักษาจนหายได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเช่นกัน สำหรับปัญหาสายด่วน 1330 ได้ขยายคู่สายเพิ่มเป็น 3,200 คู่สาย มีสายโทรเข้าลดลงเหลือ 44,447 สาย สายหลุดหรือไม่ได้รับสาย ลดลงจาก 37% เหลือ 13%
ภาพจาก AFP/รอยเตอร์/สธ.