ไทยพบ 4 ราย เข้าข่ายติดเชื้อโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.2

วันนี้ (14 มี.ค.65) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ขณะนี้สายพันธุ์โควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์โอมิครอน เกือบร้อยละ 99 แล้ว โดยแนวโน้มสายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 พบมากขึ้น ร้อยละ68 ส่วน BA.1 พบร้อยละ 32.4

ส่วนกรณีที่ประเทศฮ่องกงพบสายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ว่า เบื้องต้นยังไม่ถูกประเมินให้เป็นสายพันธุ์น่ากังวลหรือสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังจากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอจะประเมินความสามารถในการแพร่กระจายความรุนแรงของโรคหรือการหลีกหนีวัคซีนได้ 

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เฝ้าระวังทุกสายพันธุ์ของเชื้อที่ก่อโรคโควิดอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิธีตรวจเฉพาะจุดกลายพันธุ์และตรวจลำดับเบสทั้งตัว ขอให้มั่นใจว่าไทยมีความสามารถ ในการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวของไวรัสโดยส่งเข้าไปในระบบถังกลางของโลก หรือ จีเซท 500-600 ราย โดยเป็น BA.1.1 เยอะที่สุด 

ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า สายพันธุ์ BA.2 มีสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 และ BA.2.3 ด้วย โดยจีเซทยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์รวบรวมข้อมูล โดยยังไม่ระบุชื่ออย่างเป็นทางการของสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 

ขณะที่ประเทศ ฮ่องกง ที่เห็นปรากฎการณ์พบโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA2.2ซึ่งเป็นช่วงที่พบว่าผู้ป่วยมีอาการหนักและเสียชีวิตด้วย มองว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปถึงความรุนแรงของโรค ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าว และยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 

ซึ่งการเสียชีวิตในประเทศฮ่องกงที่เกิดขึ้น ยังสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากสายพันธุ์ย่อยใหม่หรือไม่ เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว 

ส่วนประเทศไทย พบ จำนวน 4 ราย เข้าข่ายสายพันธุ์ย่อย BA2.2 เป็นต่างชาติ 1 ราย  คนไทย 3 ราย ซึ่งพบการกลายพันธุ์ในตำแหน่งเดียวกันกับที่พบในประเทศฮ่องกง โดยทั้ง 4 เป็นการพบจากระบบเฝ้าระวังตรวจตราสายพันธุ์ในประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากระบบจีเซทก่อน ในการวิเคราะห์ข้อมูล และนำสายพันธุ์นี้เข้าระบบ เบื้องต้นจำนวน 4 ราย ที่พบในไทยอาการรุนแรงไม่รุนแรงและรักษาหายแล้ว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การพบสายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 มาจากสายพันธุ์เดิม BA.2  อีกทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดในฮ่องกงพบว่ามีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยในการส่งผลต่อผู้ป่วยติดเชื้อ เช่น สถานการณ์เตียงในโรงพยาบาลเต็ม การรักษาที่อาจไม่ทั่วถึง เป็นต้น 

ส่วนสายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ BA.3 เบื้องต้นยังไม่พบในประเทศไทย ส่วน BA.2.2 และ BA.2.3  ยังต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนก่อน 

ทั้งนี้ ตามธรรมชาติของไวรัสมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา หากกลายพันธุ์แล้วไม่มีความรุนแรงหรืออะไรที่น่ากังวลก็จะจบไป แต่ไทยก็ยังคงเฝ้าระวังและมีการรายงานข้อมูลการตรวจหาสายพันธุ์เข้าระบบ จีเซท อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ BA.2 ที่พบติดง่ายขึ้นไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทุกคนควรยังคงต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ป้องกันตัวเองอยู่

การพบ สายพันธุ์ BA.2.2 ในประเทศฮ่องกง สัมพันธ์กับอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตของประชากรในประเทศด้วย มองว่า ข้อมูลตอนนี้ ยังไม่อาจสรุปถึงความรุนแรงของโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ได้   

เนื่องจากผู้เสียชีวิตในวันนี้ คือ ผู้ที่ติดเชื้อเมื่อ 10 วันที่แล้ว หรือสัปดาห์ที่แล้วรวมถึงอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อเดือนที่แล้ว ซึ่งเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป ในแง่ของความรุนแรงของเชื้อ ที่ทำให้พบผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่มากพอจะระบุได้ว่าสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวมีความรุนแรงของโรคมากกว่า BA.2 หรือไม่

ภาพจาก TNN ช่อง 16