จีนลงดาบรอบใหม่ ลดชั่วโมงเล่นเกมส์ออนไลน์ของเยาวชน โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
จีนลงดาบรอบใหม่ ลดชั่วโมงเล่นเกมส์ออนไลน์ของเยาวชน โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
เมื่อวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับจีนได้ประกาศจำกัดระยะเวลาการเล่นเกมส์ของคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
สำนักงานบริหารสื่อและสิ่งพิมพ์แห่งชาติ (National Press and Publication Administration) ให้ข้อมูลว่า เยาวชนจีนจะเล่นเกมส์ได้ระหว่าง 20.00-21.00 น. ของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
นอกจากนี้ บริษัทเกมส์ออนไลน์ชั้นนำของจีน อาทิ เทนเซนต์ (Tencent) เน็ตอีส (NetEase) และเพอร์เฟคเวิร์ล (Perfect World) ยังได้รับคำสั่งมิให้บริการนอกเวลาที่กำหนด และให้กำกับควบคุมการใช้บริการของลูกค้าอย่างเคร่งครัด อาทิ การระบุตัวตน และการลงทะเบียนด้วยชื่อและนามสกุลจริง
การลงดาบของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ นอกจากจะต้องการปกป้องสภาพร่างกายและจิตใจของเด็กจีน หวังผลให้เยาวชนจีนให้เวลาและความสำคัญมากขึ้นกับครอบครัว การเรียน และการพักผ่อนแล้ว ยังหวังผลที่จะให้เยาวชนจีนใส่ใจกับสังคมโดยรวมตามปรัชญา “ความเจริญรุ่งเรืองร่วม” (Common Prosperity) และลดอิทธิพลของธุรกิจออนไลน์ในระบบเศรษฐกิจจีน ซึ่งแฝงไว้ด้วย “ฟองสบู่”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ปกครองและครูต่างปวดหัวกับพฤติกรรมการ “ติด” เกมส์ออนไลน์อย่างงอมแงมของเด็กจีน จนส่งผลกระทบต่อการเรียน และสภาพจิต
นอกจากนี้ การเล่นเกมส์ออนไลน์ยังก่อภาระทางการเงินกับพ่อแม่และผู้ปกครองอีกด้วย
ในช่วงหลายปีหลัง รัฐบาลจีนก็ออกมาตรการคุมเข้มมากขึ้นโดยลำดับ โดยในปี 2018 รัฐบาลก็หยุดออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจเกมส์ออนไลน์เป็นเวลาถึง 8 เดือน และเดินหน้าจัดระเบียบธุรกิจเกมส์ออนไลน์มากขึ้นโดยลำดับ
ก่อนหน้านี้ไม่นาน รัฐบาลจีนก็ลดเวลาการเล่นเกมส์ออนไลน์เหลือ 1.5 ชั่วโมงในวันธรรมดาและ 3 ชั่วโมงในวันหยุด
แถมเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลก็นำเอาเทคโนโลยีระบบการจดจำใบหน้ามาทำหน้าที่ “สายตรวจเที่ยงคืน” (Midnight Patrol) ตรวจสอบการเล่นเกมส์ออนไลน์ของเยาวชนจีน
นอกจากนี้ สื่อของรัฐก็ยังตีพิมพ์ข่าวและบทความที่เปรียบเกมส์ออนไลน์ว่าเป็นเสมือน “ยาเสพติดออนไลน์” พร้อมโยนหินกรุยทางสำหรับการจีดระเบียบครั้งใหม่
ขณะที่พ่อแม่และผู้ปกครองต่างพยายามคิดหาวิธีจัดการกับปัญหาหลายวิธี อาทิ การกำหนดเวลาเข้านอน การจำกัดชั่วโมงอินเตอร์เน็ต และการยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเอาไว้เมื่อถึงเวลานอน
บริษัทเกมส์ออนไลน์เองก็ตระหนักดีว่า การจัดระเบียบตลาดเป็นสิ่งจำเป็น และให้ความร่วมมือกับแนวทางการจัดระเบียบของภาครัฐที่มีแนวโน้มเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่อง
โดยได้นำเอาฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีมาช่วยปรับปรุงวิธีการและเงื่อนไข รวมทั้งระยะเวลาการเล่นเกมส์ออนไลน์ของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่างเช่น เทนเซ้นต์ได้จำกัดเวลาการเล่นเกมส์ดังอย่าง Honor of Kings และ PUBG Mobile ของเยาวชนเหลือ 1 ชั่วโมงในวันธรรมดา และ 2 ชั่วโมงในวันหยุด ไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่วิธีการเหล่านั้นก็ดูไม่เป็นผล เยาวชนจีนยังหาวิธีการเข้าถึง “สารเสพติดออนไลน์” ได้อยู่ดี
เมื่อปัญหายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะหลัง พ่อแม่และผู้ปกครองก็ “สุดทน” ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยจัดระเบียบ และออกมาตรการ “ลงดาบ” กับกิจการเกมส์ออนไลน์ในระดับที่สูงขึ้น เพราะเข้าข่ายมอมเมาเด็กและเยาวชน
อนึ่ง ข้อมูลของ ChinaJoy งานแฟร์เกมส์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีที่เซี่ยงไฮ้ ระบุว่า ตลาดเกมส์ออนไลน์ในจีนถือเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่หอมหวานสำหรับผู้ประกอบการในวงการ มีลูกค้าจำนวนถึงเกือบ 670 ล้านคน และ ณ ครึ่งแรกของปี 2021 ตลาดเกมส์ออนไลน์ในจีนมีมูลค่าทะลุ 150,000 ล้านหยวน
ภายหลังการประกาศมาตรการใหม่ดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัทเกมส์ออนไลน์ของจีนก็ดิ่งหัวลงอีกครั้ง
ราคาหุ้นของ Perfect World ที่ลิสต์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ลดลงกว่า 6.3% เหลือ 13.6 หยวนเมื่อตลาดปิดในวันเดียวกัน ขณะที่ของ 37 Interactive Entertainment ก็ลดลงกว่า 5% เหลือ 16.2 หยวน
นอกจากนี้ NetEase ที่อยู่ในช่วงตลาดพรีเทรดดิ้งในตลาดแนสแด็ก (Nasdaq) ของสหรัฐฯ ก็หล่นลงเกือบ 7% เช่นกัน
ผมมั่นใจว่า ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาประเทศสู่สังคมนิยมสมัยใหม่ โดยมี “ความเจริญรุ่งเรืองร่วม” เป็นเป้าหมายสูงสุด การจัดระเบียบ “ครั้งใหม่” นี้คงกลายเป็นของเก่าในไม่กี่วันข้างหน้า …