ภาพรวมตลาด Bitcoin ในไตรมาส1 เป็นอย่างไร? โดย Zipmex
ภาพรวม Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลในไตรมาส 1 /คำแนะนำต่อจากนี้ โดย เอกราช ศรีศุภวิชากิจ Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex
ผ่านมาแล้วหนึ่งไตรมาสสำหรับปี 2021 ภาวะตลาดการเงินการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ราคาก็มีการเคลื่อนไหวพลิกไปพลิกมาหันปากกาเซียนไปตามๆ กัน ในวันนี้เราจึงอยากจะขอสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเป็นที่สนใจของใครหลายคน รวมทั้งกลยุทธ์และคำเตือนสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้
ภาพรวมของบิทคอยน์ในไตรมาสที่หนึ่งเป็นอย่างไร
ราคาบิทคอยน์ในปัจจุบัน (24 มีนาคม 2021) อยู่ที่ 55,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบิทคอยน์หากคิดเป็นเงินบาทจะอยู่ที่ประมาณ 1,760,000 บาทต่อหนึ่งบิทคอยน์ ในขณะที่ราคาสูงสุดในรอบสามเดือนจะอยู่ประมาณ 61,000 – 62,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบิทคอยน์ ถ้าเป็นไทยบาทจะอยู่ที่ 1,900,000 บาท (ราคาจากแพลตฟอร์มซิปเม็กซ์) โดยคิดเป็นผลตอบแทนสามเดือนย้อนหลังที่ประมาณ 90% แต่ถ้าคิดจากต้นปี 2021 จะบวกอยู่ประมาณ 700%
ความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับความผันผวนของบิทคอยน์นั้นถือว่าสูงเป็นปกติอยู่แล้วเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อย่างพวกเงินดอลลาร์ เงินบาท เงินยูโร เงินเยน เป็นต้น ถ้าคิดจากความ Volatility แล้วบิทคอยน์จะแกว่งตัวในช่วงนี้ประมาณ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบิทคอยน์ในหนึ่งวัน หากเทียบกับราคาปัจจุบันที่ 55,000 ก็จะเห็นว่ามีการแกว่งตัวต่อวันสูงถึง 8% โดยเฉลี่ย แต่ก็ยังน้อยลงเมื่อกับในอดีตเมื่อหลายปีก่อนครับ
อีกข้อมูลหนึ่งที่อยากจะแชร์ให้ฟังก็คือตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภาพรวมมีการสะบัดของราคารวมถึง “ความลึก” ในการปรับฐานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วยครับ 
ภาพประกอบด้านล่างมาจากการนำราคาสินทรัพย์ดิจิทัลหลายตัวมารวมกันแล้วดูว่าในช่วงเวลาต่างๆ สินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวลงลึกหรือปรับฐานแต่ละครั้ง มีความลึกมากเท่าไหร่ อย่างในช่วงปี 2012 มีการปรับฐานลึกกว่า 95% ,ปี 2015 มีการปรับฐานลึกกว่า 80%, ปี 2018 มีการปรับฐานลึกกว่า 80%, ปี 2020 มีการปรับฐานลึกกว่า 70%และปี 2021 มีการปรับฐานลึกกว่า 20%
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของราคาบิทคอยน์
ข่าวล่าสุดที่มากดดันภาพรวมตลาดนั้นมาจากการออกมาให้ความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ว่าคนที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัลควรทำความเข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงของการลงทุนให้มาก รวมถึงมองว่าบิทคอยน์ไม่สามารถมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้เพราะไม่มีอะไรหนุนหลัง แต่เงินดอลลาร์มี FED หนุนหลังตลอด แต่อาจจะสามารถแทนทองคำได้
ส่วนข้อสังเกตุจากเรามีทั้งหมดสามข้อที่พบก็คือ
1.ราคาบิทคอยน์มีการปรับตัวขึ้นและ Momentum ในการขึ้นกลับลดลงเรื่อยๆ
2.ภาวะ Risk-off ในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
3.การที่บิทคอยน์ราคาทำจุดสูงสุดใหม่แต่เหรียญโดยส่วนใหญ่ไม่ทำ New High สะท้อนถึงการเกิด Divergence รูปแบบหนึ่งว่าตลาดภาพรวมดูมีความอ่อนแอและ Sensitive เป็นอย่างมาก
นั่นทำให้หากมี Fund Flow ไหลออกจากสินทรัพย์ดิจิทัลอาจจะมีการ Panic เทขายตามๆกันเพราะความที่มันขึ้นมาสูง ข่าวลบก็เริ่มมีออกมาบ้าง แม้สถาบันการลงทุนจะยังซื้อบิทคอยน์ต่อเนื่องแต่ก็เสี่ยงในการปรับฐานได้เช่นเดียวกันครับ ยังไงก็ต้องมาติดตามกันว่านโนบายเศรษฐกิจ นโยบายสภาพคล่อง จะยังคงส่งเสริมสินทรัพย์เสี่ยงต่อไปหรือไม่ 
(กองทุน GBTC ยังคงซื้อบิทคอยน์อย่างต่อเนื่อง)
เราควรวางกลยุทธ์อย่างไรในสถานการณ์แบบนี้
ในช่วงที่ราคาขึ้นมาสูงพอสมควรและมีความผันผวนแบบนี้ การเลือกกลยุทธ์แบบตั้งรับน่าจะดีกว่าการซื้อแบบไล่ราคาแน่นอน ทุกท่านอาจจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการดูแนวรับแนวต้านเพื่อวางกรอบ วางโซนในการซื้อขาย ที่สำคัญเลยคืออยากให้ใช้การทยอยเข้า ออก แบบแบ่งไม้ซื้อดีกว่าการเทหมดหน้าตักเหมือนที่หลายคนมักจะทำตามๆกัน อีกหนึ่งคำแนะนำจากเราก็คือการโฟกัสที่ตัวเองมากกว่ามองพอร์ตของคนอื่น อย่าสนใจว่าใครจะได้กำไรง่าย ได้กำไรเร็วแค่ไหน เพราะเค้าอาจจะเข้าตลาดมาก่อนเรา ต้นทุนต่ำกว่าเราก็ได้ เราในฐานะที่เข้ามาใหม่ ต้นทุนแพงกว่า ประสบการณ์น้อยกว่า อย่ามองหญ้าข้างบ้านว่าเขียวกว่าบ้านของเรามั้ยแต่ให้พยายามสร้างพอร์ตของเราให้ดี วันหนึ่งผลลัพธ์ที่ดีหรือหญ้าบ้านเราก็จะเขียวเองตามธรรมชาติครับ
