ราคาทองคำร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือนเกิดจากสาเหตุอะไร

 

Gold Bullish 

    ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

    สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ ได้แก่ รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ สหรัฐและจีน จีนและไต้หวัน

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

Gold Bearish 

    ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.

    การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น

    เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ 

ทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าและการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอนแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกดดันตลาดทองคำ ทั้งนี้ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐได้พุ่งสูงกว่าที่คาดไว้ หลังจากที่เดือนก่อนได้ส่งสัญญาณเริ่มชะลอตัว ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงขึ้น ซึ่งนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนนี้ 

แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์หน้า ทำให้อัตราดอกเบี้ยเฟดขึ้นมาสู่ระดับ 3.00%-3.25% 

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเพิ่มมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้ โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. ทำให้อัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 2565 ของเฟดมีโอกาสมาสู่ระดับ 4.25%-4.50% 

ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อพุ่งสูง ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจโลกจะถดถอย

การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศมหาอำนาจ อย่างเช่นสหรัฐ อาจส่งผลให้ธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกมีความจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามไปด้วย 

ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศยังไม่ดีนัก อย่างเช่น สหภาพยุโรป ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงมากในหลายประเทศ ซึ่งไม่ใช้เพียงแค่สหรัฐ และยุโรปเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นมากกว่า ซึ่งล้วนเป็นแรงกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ 

ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 30.5% อัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีเช่นกัน ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นกว่า 95.7% 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงสุดในรอบ 23 ปี ซึ่งราคาพลังงานพุ่งขึ้นกว่า 41.9% โดยได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาอาหารและพลังงานพุ่งพรวด เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในจีนเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนส.ค. 2565 ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 6.3% จากการเพิ่มขึ้นของราคาเนื้อสัตว์และผลไม้ รวมถึงเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 24% 

ขณะที่ญี่ปุ่นอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี การปรับขึ้นของเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเกิดจากต้นทุนเชื้อเพลิงและราคาอาหารที่สูงขึ้น หลังจากการรุกรานของรัสเซียในยูเครน และค่าเงินเยนที่อ่อนค่าในรอบ 24 ปี ขณะที่ 3 อันดับอัตราเงินเฟ้อสูงสุด ได้แก่ เวเนซุเอลา 1,198.0%  ซูดาน 340.0% เลบานอน 201.0%

ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้านี้แต่อาจจะไม่รุนแรงมากนัก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ภาวะถดถอยอาจยังไม่เกิดขึ้นรุน แรง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือประเทศในสหภาพยุโรป และประเทศเล็กมากกว่า ๆ ที่อาจจะเห็นสัญญาณถดถอยบ้างในปีหน้า เนื่องจากสหภาพยุโรปมีแนวโน้มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนานที่สุด จากผลกระทบสงครามรัสเซียและยูเครน

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นคาดว่า ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย. ราคาทองคำคาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways เนื่อง จากตลาดรับรู้การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมาพอสมควร ประกอบกับการระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเฟดมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม หากภายหลังการประชุมเฟด เฟดได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จะส่งผลให้ราคาทองคำเกิดการ Rebound แต่หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% จะยิ่งกดดันตลาดทองคำให้ปรับตัวลงต่อไป ทั้งนี้ให้หาจังหวะเข้าซื้อทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลง โดยคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นในช่วงสิ้นปี 2565 จากแรงซื้อทองคำก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน รวมถึงความกังวลความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และความตึงเครียดระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ 

ส่วนสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% มาสู่ระดับ 3.00%-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ และการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ  นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนส.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนส.ค. โดย conference Board  ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย.

ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,650 ดอลลาร์ และ 1,640 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,680 ดอลลาร์ และ 1,690 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,000 บาท และ 28,900 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 29,500 บาท และ 29,700 บาท

ที่มา  ธนรัชต์ พสวงศ์    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ  ฮั่วเซ่งเฮง