TNN online การเจรจารัสเซีย-ยูเครน คืบหน้ากว่าทุกครั้งส่งผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

TNN ONLINE

คอลัมนิสต์

การเจรจารัสเซีย-ยูเครน คืบหน้ากว่าทุกครั้งส่งผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

การเจรจารัสเซีย-ยูเครน คืบหน้ากว่าทุกครั้งส่งผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

การเจรจารัสเซีย-ยูเครน มีความคืบหน้ามากที่สุดตั้งแต่ที่รัสเซียและยูเครนเริ่มการเจรจามา วิเคราะห์โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

Gold Bullish 
Gold Bearish
  • - ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
  • - ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 6 ครั้งๆละ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้

  • - สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รุนแรงมากขึ้น

  • - การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น

  • - การกระจายวัคซีนโควิด-19


การเจรจารัสเซีย-ยูเครน มีความคืบหน้ามากที่สุดตั้งแต่ที่รัสเซียและยูเครนเริ่มการเจรจามา    

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากการเจรจารัสเซีย-ยูเครน ที่มีความคืบมากขึ้น โดยยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการมีสถานะเป็นกลาง ขณะที่รัสเซียได้ให้คำมั่นว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ จึงถือว่าเป็นความคืบหน้ามากที่สุดนับจากการเจรจาเป็นต้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับมาอีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ จากที่นักลงทุนไม่มั่นใจในสถานการณ์ยูเครน เนื่องจากกำลังรัสเซียได้ระดมยิงปืนใหญ่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นานรัสเซียพึ่งให้คำมั่นจะลดปฏิบัติการทางทหาร รวมการประกาศของรัสเซียในการซื้อก๊าซธรรมชาติด้วยเงินรูเบิลจากรัสเซียเท่านั้น  สร้างความกังวลในการขาดแคลนด้านพลังงาน นอกจากนี้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นจากความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE Price Index เดือนก.พ. พุ่งขึ้นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี แม้ว่าการที่ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจะเป็นตัวเร่งให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามภาวะที่เงินเฟ้อพุ่งตัวสูงนั้นเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในเวลาต่อมา


สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่อแววพลิกโฉมตลาดพลังงาน

หลายประเทศเริ่มมีความกังวลมากขึ้นว่าโลกอาจเกิดภาวะขาดแคลนพลังงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงอย่างร้อนแรง รวมถึงก๊าซธรรมชาติที่ล่าสุดรัสเซียออกมาประกาศกร้าวว่าจะต้องซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียด้วยเงินชำระรูเบิลเท่านั้น  ซึ่งการประกาศดังกล่าวจะเป็นการลดบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์ลง และช่วยพยุงค่าเงินรูเบิลมากขึ้น หลังจากที่ค่าเงินรูเบิลทรุดตัวหนักเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันและส่งออกน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก คิดเป็น 11% ของการส่งออกทั่วโลก ผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่เพียงที่ทำให้ราคาด้านพลังงานพุ่งตัวสูงนั้น ยังส่อให้จุดความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐห่างเหินมากขึ้น ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโคในเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ยิ่งดันซ้ำเติมด้านราคาน้ำมัน แต่สาเหตุการเผาไหม้นั้นเกิดจากการโจมตีด้วยขีปานาวุธจากกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าซาอุดิอาระเบียและสหรัฐเริ่มลดถอยลงในช่วงหลายปีมานี้ ในอดีตความสัมพันธ์เดิมตั้งอยู่บนผลประโยชน์ระหว่างกันจากที่ซาอุดีอาระเบียช่วยจัดหาน้ำมันให้กับสหรัฐและชาติพันธมิตรตะวันตก และสหรัฐเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงอันดับหนึ่งในตะวันออกกลางของซาอุดีอาระเบีย แต่ทว่าสหรัฐยุติการสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการทำสงครามกับกบฏฮูตีในเยเมนและถอดกลุ่มกบฏฮูตีออกจากบัญชีผู้ก่อการร้าย ขณะเดียวกันก็พึ่งพาน้ำมันตัวเองมากขึ้น ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย โดยซื้อน้ำมัน 1 ใน 4 ของซาอุดีอาระเบีย และขายน้ำมันให้จีนด้วยเงินหยวน แทนสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่อแววลดบทบาทสกุลเงินดอลลาร์ลง ทั้งนี้สงครามรัสเซีย-ยูเครนตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สหรัฐต้องการให้ซาอุดิอาระเบียช่วยเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาของน้ำมัน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียและ UAE ยืนกรานปฎิเสธที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันและร่วมกดดันรัสเซียตามประสงค์ของสหรัฐ ซึ่งกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียงเล็กน้อยตามข้อตกลงเดิม แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันจะเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน  ทั้งนี้หากราคาด้านพลังงานยังคงพุ่งสูงขึ้นและดันเงินเฟ้อให้พุ่งสูง ยิ่งกระทบต่อเศรษฐกิจ และดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นจากการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อความสั่นคลอนผลงานของพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในศึกการเลือกตั้งกลางเทมอของสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ด้วยเช่นกัน


ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ระยะสั้นราคาทองคำอาจอ่อนตัวลง จึงแนะนำว่าสามารถเข้าซื้อทองคำได้เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลง  สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. โดย ISM จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC

ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 30,200 บาท และ 30,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 30,700 บาท และ 30,900 บาท


การเจรจารัสเซีย-ยูเครน คืบหน้ากว่าทุกครั้งส่งผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

การเจรจารัสเซีย-ยูเครน คืบหน้ากว่าทุกครั้งส่งผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ข้อมูลจาก: ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : AFP , ฮั่วเซ่งเฮง



ข่าวแนะนำ