TNN กลต.หนุนซื้อขายคาร์บอนเครดิต การเงินและธุรกิจกรีนคึกคัก

TNN

รายการ TNN

กลต.หนุนซื้อขายคาร์บอนเครดิต การเงินและธุรกิจกรีนคึกคัก

สำนักงานก.ล.ต.ร่วมส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิตของอาเซียน ขณะที่ กบข.และบริษัทจดทะเบียนอย่าง BDMS มีการลงทุนในกรีนบอนด์และเงินฝากหนุนปล่อยกู้แก่ธุรกิจกรีน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ ปี 2567 ด้านการพัฒนาตลาดทุนยั่งยืนต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญ เพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยเติบโตมากขึ้น และทำให้มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในวงกว้างมากขึ้น


ล่าสุด ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์กำกับดูแล "Utility Token พร้อมใช้" ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้การให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการอุปโภคบริโภค หรือเป็นการรับรองหรือแทนเอกสารสิทธิใด ๆ  ซึ่งรวมถึงโทเคนดิจิทัลที่นำไปใช้แลกเป็นคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน และพร้อมที่จะนำไปใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล


โดยระยะต่อไปจะมีการเสนอให้ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ให้บริการ consumption-based utility token ได้ ซึ่งจะเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณายกต่อไป นอกจากนี้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังอยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับการให้บริการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในรูปแบบอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมทั้งเตรียมความพร้อมโดยการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการให้บริการซื้อขายด้วย


ด้าน คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เข้าลงทุนในกรีนบอนด์ของ บมจ.ราช กรุ๊ป หรือ RATCH  มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.81 และอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 เพื่อพัฒนาโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการพลังงานหมุนเวียน เพื่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์


ขณะที่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านความยั่งยืน ด้วยการเข้าร่วมโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว (Green Term Deposit) กับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ด้วยการฝากเงินจำนวนมากกับโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากเขียวของธนาคารยูโอบี  เพื่อให้ธนาคารนำเงินทุนดังกล่าวไปจัดสรรปล่อยกู้ให้กับโครงการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงพลังงานหมุนเวียน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

ข่าวแนะนำ