TNN ส่องอานิสงส์หุ้น รับ 10 นโยบายเร่งด่วน

TNN

รายการ TNN

ส่องอานิสงส์หุ้น รับ 10 นโยบายเร่งด่วน

ส่องอานิสงส์หุ้น รับ 10 นโยบายเร่งด่วน

นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาลเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ วางยุทธศาสตร์การเติบโตของประเทศ โดยยืนยันจะเดินหน้า 10 นโยบายเร่งด่วน เพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ยืนยันเจตนารมณ์และนโยบายรัฐบาลสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาสในการพัฒนา และสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประชาชนทุกคน


โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำทันที เพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด ประกอบด้วย 

1. ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 

2. สนับสนุนผู้ประกอบการไทย SMEs ที่ปัจจุบันขาดสภาพคล่อง

3. ลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค 

4. การนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี 

5. กระตุ้นเศรษฐกิจโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 

6. เพิ่มมูลค่าสินค้าการเกษตรและราคาพืชผลเกษตร ยกระดับรายได้เกษตรกร 

7. ส่งเสริมการท่องเที่ยว 

8. แก้ปัญหายาเสพติด 

9. เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม 

และ 10. ส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม


นอกจากนี้ ยังมีนโยบายระยะกลาง และระยะยาว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน วางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต อย่าง การสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิม //ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป ไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต (HEVs PHEVs BEVs และ FCEVs) // ยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศ // ส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต // เศรษฐกิจสีเขียว// ต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล  // พัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) // ยกระดับสู่ศูนย์กลางการเงินของโลก (Financial Hub) เป็นต้น 


หลักทรัพย์ฟิลลิป ประเมินนโยบาย 10 ประการเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาเช้านี้ โดยมองหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว ได้แก่ นโยบายปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ : BBL KTB SCB MTC SAWAD THANI  // ส่งเสริม SMEs : KBANK AEONTS // ลดค่าพลังงาน และ สาธารณูปโภค บวกดิจิทัลวอลเล็ต : CPALL CPN CPAXT MOSHI CRC BJC ICHI CBG ADVANC TRUE VGI  // ส่งเสริมการท่องเที่ยว : AAV BA AOT MINT ERW CENTEL AWC SPA


ขณะที่หลักทรัพย์ หยวานต้า มองว่า การแถลงนโยบายของนายกฯ ยังเป็นไปตามร่างนโยบายที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ โดยจะเร่งกระตุ้นการบริโภคเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในระยะสั้น และกลับมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับการเติบโตของ GDP ในระยะยาว ถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อธุรกิจในประเทศ( Domestic Play) โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร, ไฟแนนซ์, ค้าปลีก, สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น KBANK, BBL, TIDLOR, BAM, CPALL, CPAXT, BJC, MBK, OSP, SABINA เป็นต้น


ข่าวแนะนำ