MAGURO ดึงร้านดังญี่ปุ่น เปิดสาขาในไทย
มากุโระ กรุ๊ป เซ็นสัญญากับเจ้าของร้ายนำสิทธิการเปิดร้าน "ทงคัตสึ อาโอกิ" ร้านอาหารดังจากประเทศญี่ปุ่นมาเปิดที่ไทย คาดเปิดสาขาแรกในไตรมาส 4/67 นี้ หนุนพลิกฟื้นในครึ่งหลังปีนี้
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มากุโระ กรุ๊ป หรือ MAGURO เปิดเผยว่า เมนูทงคัทสึหรือหมูทอดญี่ปุ่นเป็น 1 ในเมนูยอดนิยมของคนไทย โดยจะเห็นว่าเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตที่คนไทยจะต้องไปทานทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่น บริษัทจึงอยากได้แบรนด์ที่มีความชำนาญเรื่องหมูทอดทงคัตสึอย่างแท้จริงที่จะมาสร้างความแตกต่างให้กับตลาดทงคัตสึในไทย ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ เซ็กเม้นท์ร้านทงคัทสึในไทย ยังมีการแข่งขันที่ไม่สูง แต่มีโอกาสในการขยายตัวอย่างมาก
ดังนั้น มากุโระ จึงปิดดีลคว้าพันธมิตรร้านดัง "ทงคัตสึ อาโอกิ" สุดยอดทงคัตสึญี่ปุ่นคิวยาวกว่า 2 ชม.มาเปิดสาขาในไทย ในไตรมาส 4/67
ด้าน นายเท็ทซึ คูราโมโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟนด์ จำกัด เจ้าของร้านอาหาร ทงคัตสึ อาโอกิประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ได้ไปเยี่ยมชมร้านของมากุโระหลายสาขา และรู้สึกประทับใจกับการออกแบบร้าน การบริการ และการดำเนิน ทำให้รู้สึกมั่นใจในการร่วมงานกับมากุโระ ในฐานะพันธมิตร
ทั้งนี้ ร้านทงคัตสึ อาโอกิ เป็นร้านหมูทอดทงคัตสึ ยอดนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่น และฟู้ดดี้ทั่วโลก ที่ลูกค้ายอมเข้าคิวรอนานร่วม 2 ชั่วโมงในบางวัน จนติด Tabélog's top 100 ร้านทงคัตสึ ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวและให้คะแนนร้านอาหารยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการการันตีความอร่อยจากคะแนนใน Tripadvisor ถึง 4 ดาว จาก 16 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น
ด้านมุมมองการลงทุน หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ระบุในบทวิเคราะห์วานนี้ (11 ก.ย.67) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MAGURO ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 22 บาท แม้ว่าการเติบโตสาขาเดิมในเดือน ก.ค. ยังติดลบใกล้เคียงไตรมาส 2/67 ที่ร้อยละ 2-3 เทียบกับปีก่อน ส่วนในเดือน ส.ค.ปีนี้เริ่มฟื้นดีขึ้น แต่รายได้รวมนับตั้งแต่ไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบันปรับขึ้นแรงร้อยละ 30 จากไตรมาสก่อน ทำนิวไฮหลังรับรู้รายได้สาขาใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้บริหาร MAGURO ก็ได้ปรับเพิ่มเป้าเปิดสาขาใหม่ปีนี้ เป็น 13 สาขา จากเดิม 11 สาขา และในไตรมาส 4/67 จะเห็น 2 แบรนด์ใหม่ เป็นรูปแบบ all day dining 1 และร้านญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่อีก 1 (คือ ทงคัตสึ อาโอกิ ที่เซ็นสัญญาแล้ว) และจะเปิดต่อเนื่องในปี 2568 อีกราว 12-13 สาขา และจะมีแบรนด์ใหม่ต่อเนื่องอีก 1-2 แบรนด์ ส่วนแนวโน้มกำไร และ Margin ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดการณ์ว่าจะกลับมาฟื้นลุ้นนิวไฮรายไตรมาส จากต้นทุนแซลมอนปรับลงร้อยละ 27 นับจากไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบัน จึงให้แนวรับ 16.60-16.50 และแนวต้าน 17//17.80-18 บาท
ข่าวแนะนำ