เม็ดเงินลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนธุรกิจบริการ อาหาร ท่องเที่ยว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว การเมืองคลี่คลย และกำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น เผยเงินลงทุนต่างชาติพร้อมไหลเข้าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยถือว่าอยู่ในทิศทางขาขึ้น จากปัจจัยภายนอกที่เอื้อต่อการเติบโตของ SET Index จากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะปรับลดลง ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดทั่วโลกและหนุนเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในภูมิภาคหรือกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) และไทย (ยกเว้นจีน) เนื่องจากตลาดหุ้นไทยถือว่าเป็นตลาดทีมีสภาพคล่องมากที่สุดในอาเซียน
ด้านภาพเศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มเติบโตได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง บวกกับไทยมีความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เติบโตดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนไทยหันมาใช้การซื้อหุ้นคืนเป็นเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการซื้อหุ้นคืนยังช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ลงทุนทราบว่าผู้บริหารมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัทและกระตุ้นความต้องการซื้อหุ้นในตลาด ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
อีกทั้งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีสภาพคล่องไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยในกองทุน Thai ESG และความชัดเจนในการออกขายกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำที่ร้อยละ 3 จะดึงดูดความสนใจผู้ลงทุนและสามารถช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นโดยรวมในตลาดทุนให้ตลาดปรับดีขึ้นได้ในระยะถัดไป
ขณะที่ SET index ล่าสุดอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนส.ค.ปีนี้ก็ปรับขึ้นมาเป็นบวกแล้ว อยู่ที่ระดับร้อยละ 3.50 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.16 ซึ่งผลผลตอบแทนของ SET ยังต่ำกว่า ระดับร้อยละ 4.2 -4.3 ในช่วงก่อนโควิดในปี 2019 ทำให้ในระยะถัดไปอัตราผลตอบแทน SET มีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเมื่อเทียบกับในอดีต บวกกับมูลค่าการซื้อขายของ SET ก็กลับมาสูงขึ้นแตะระดับแสนล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงสุดในรอบ 19 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2566
และจากการรับฟังมุมมองความเห็นของนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศล่าสุดในงานไทยแลนด์โฟกัส 2024 ที่ผ่านมา ต่างชาติยังสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยต่อเนื่องหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวและการเมืองมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งต่างชาติยังสนใจเข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว ลังงานหมุนเวียน รวมถึงการบริโภค ที่ประเทศไทยมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง จึงเชื่อว่าฟันด์โฟลว์หรือเงินลงทุนจากต่างประเทศจะไหลเข้าต่อเนื่องในระยะถัดไป มีโอกาสหนุนดัชนีไปต่อ
นายศรพล กล่าวว่า "จากการหารือระหว่างงานและนช่วงเซสชั่นเขายังสนใจ เขาพูดอย่างนี้เลยว่า ถ้าจะลงทุนใน Emerging Market โดยเฉพาะในอาเซียน ไทยแลนด์เนี้ยยังไงก็เป็นลิสที่ต้องดู เพราะว่าหนึ่งสภาพคล่องสูงในอาเซียนแม้ว่าจะลดลงบ้าง สองเรื่องของความหลากหลายในส่วนของหุ้นไม่ว่าหุ้นไทยเองจะไม่ใช่ไฮเทคก็ยังมีความหลายหลาย ทั้งในเรื่องเฮลธ์ เรื่องฟู้ด เรื่องทัวร์ลิซึมเราก็ไม่เป็นรองใคร ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นเขาก็น่าสนใจ "
ข่าวแนะนำ