TNN แนะเก็บหุ้นเทคพื้นฐานดี ราคาลงลึก หลังเศรษฐกิจถดถอยไม่น่าห่วง

TNN

รายการ TNN

แนะเก็บหุ้นเทคพื้นฐานดี ราคาลงลึก หลังเศรษฐกิจถดถอยไม่น่าห่วง

SCBAM ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เสี่ยงถึงขั้นจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะลงแรง โดยเฉพาะหุ้นเทค มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนหุ้นเทคสำหรับคนที่ยังไม่มีหุ้นในพอร์ต

คุณสิทธา เซ่งไพเราะ  Associate Director, ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกและสหรัฐปรับลดลงหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคอย่าง Magnificent  หรือ 7 นางฟ้า จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และแรงขายทำกำไร รวมถึงถูกบังคับขายจากประเด็นแครี่เทรดเงินเยน ที่นักลงทุนเคยกู้เงินดอกเบี้ยต่ำในญี่ปุ่นมาซื้อลงทุนในหุ้นเทคสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้ SCBAM ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แย่ถึงขั้นจะเกิด Recession โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ยังน้อย


เนื่องจากข้อมูลที่ทำให้คนกังวลยังเป็นข้อมูลเพียง 1 เดือน และอาจเกิดจากปัจจัยชั่วคราวด้วย ไม่ว่าข้อมูล ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 179,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. หรือ ตัวเลขอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับร้อยละ 4.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับร้อยละ 4.1 เป็นต้น 


ทั้งนี้ อัตราการว่างานที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยมาจากมาจากเหตุผล 3 ประการ คือ 

(1) เศรษฐกิจเริ่มชะลอแรงขึ้นจริง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายประชาชนเริ่มถูกกระทบ เห็นได้จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเริ่มลดลง ทำให้การจ้างงานในหลาย กลุ่มธุรกิจ (sector) เริ่มชะลอลง 

(2) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเฮอริเคน Beryl ที่พัดผ่านมลรัฐหลุยส์เซียนาและเท็กซัสทางตอนใต้ของสหรัฐในช่วงปลายเดือน มิ.ย.- ต้นเดือน ก.ค. 

(3) การว่างงานที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับการมีส่วนร่วมตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าผู้ว่างงานเริ่มกลับมาเข้าสู่กำลังแรงงานเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีพลวัตรมากขึ้น


ส่วนในระยะต่อไป มองว่าเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานจะกลับมาใกล้ระดับร้อยละ 4 อีกครั้งจาก 3 เหตุผล คือ 

(1) การเริ่มลดดอกเบี้ย ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลงในช่วงนี้ (ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีลดลงมากสู่ร้อยละ 3.8) จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้ประชาชนและภาคธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องปรับลดคนงานมากนัก ทั้งนี้ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ จากปัจจุบันที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 5.25-5.50 

(2) ตำแหน่งงานเปิดใหม่ (JOLT) ที่ทรงตัวในระดับ 8.0-8.2 ล้านตำแหน่งในช่วง 2 เดือนหลัง บ่งชี้ว่านายจ้างยังไม่รีบลดการจ้างงานลงมาก 

และ (3) เศรษฐกิจที่ยังขยายตัวดีระดับหนึ่งโดยเฉพาะภาคบริการ (เห็นได้ทั้งจากไส้ใน GDP และไส้ใน NFP ที่เป็นภาคบริการ) ทำให้อัตราเงินเฟ้อยังไม่ปรับลดลงมาก การว่างงานจึงยังไม่น่าจะขึ้นมากตามความสัมพันธ์ Phillips Curve นอกจากนั้น ปัญหาเฮอริเคนที่ยุติลงน่าจะมีส่วนช่่วยให้อัตราว่างงานกลับมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงร้อยละ 4 ได้


สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ หลังตลาดหุ้น Nasdaq ปรับฐานย่อลงไปถึงร้อยละ 14 จากปกติที่จะเห็นการพักฐาน บวกหรือลบที่ราวร้อยละ 10  7 ขณะที่ หุ้น 7 นางฟ้าหรือหุ้นเทคอื่นราคาปรับลงมากมาก ทำให้ราคาไม่แพง จากเดิมที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหุ้นเทคปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ดังนั้น นี้จึงเป็นโอกาสทยอยเข้าสะสมหุ้นเทคในไม้แรก สำหรับคนที่ยังไม่มีหุ้นในพอร์ต เพื่อกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ 


แต่การเข้าซื้อต้องไม่ไล่ราคา เพราะนักลงทุนบางส่วนที่แพนิค หรือ ตื่นตระหนก อาจจะยังขายไม่หมด ทำให้ราคาอาจปรับลงได้อีก ทำให้คาดว่าในช่วง 1 เดือนจากนี้ราคาน่ายังผันผวน โดยหาราคาย่อลงก็สาามารถเข้าซื้อเพิ่มเติมได้ เนื่องจากพื้นฐานของหุ้น 7 นางฟ้าที่ทยอยรายงานผลประกอบการออกมายังรายได้และกำไรที่เติบโตสูงขึ้น แต่อาจไม่สูงมากอย่างที่นักลงทุนคาดหวังอย่างในอดีตที่เคยโตสูงมาก   


ส่วนคนที่มีหุ้นเทคในกลุ่มนี้อยู่แล้วหากมีกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นมามากแล้ว ควรแบ่งขายทำกำไรสัก 1 ใน 3 หรือแบ่งขายสักครึ่งของหุ้นที่ถืออยู่เพื่อทำกำไรออกมาบางส่วน และถือเงินสดเพื่อหลบความผันผวนก่อน 

ข่าวแนะนำ