"ภูพระบาท"มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย | เรื่องดีดีทั่วไทย
ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน“อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” จ.อุดรธานี ให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่แหล่งที่ 8 ของประเทศไทย เป็นมรดกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 5 และเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี
นาที ที่คณะกรรรมการมรดกโลก หรือ ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” ที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ พร้อมกับชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี " ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
สำหรับแหล่งมรดกโลกภูพระบาทฯ เป็นแหล่งอารยธรรมพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 2,500–3,000 ปีมาแล้ว และมีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงสมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ 12–16) ที่เรียกว่า “แหล่งวัฒนธรรมสีมา” โดยการใช้หลักหิน (สีมา) ปักล้อมรอบเพิงหินสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
โดยแหล่งวัฒนธรรมสีมา ที่พบในพื้นที่ภูพระบาทนั้น เป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกและยังปรากฏหลักฐานอยู่ในตำแหน่งดั้งเดิม อีกทั้งยังเป็นแหล่งวัฒนธรรมสีมา ที่ตั้งอยู่บนภูเขาเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และทวีปเอเชีย ซึ่งยังมีความครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความเป็นของแท้ดั้งเดิมมากที่สุด
ที่ผ่านมาอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เคยถูกเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2547 ต่อมาถูกถอนรายชื่อ //กระทั่งปี 2559 ได้เสนอเพื่อให้มีการพิจารณาการขึ้นทะเบียนอีกครั้ง และในที่สุดปีนี้ (2567) ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ทำให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลกแห่งที่ 8 ของประเทศไทย และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ต่อจากเมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ที่ได้ประกาศไปเมื่อปี 2566
และยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี ต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อปี 2535 (32 ปี )
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ ทางกรมศิลปากร ได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่วันที่28 กรกฎาคม - 12 สิงหาคม 2567
ข่าวแนะนำ