TNN online (คลิป) เตือน!รับมือพายุไซโคลน 20-22 มี.ค. ฝนถล่มลาดพร้าว-ห้วยขวางน้ำท่วม

TNN ONLINE

รายการ TNN

(คลิป) เตือน!รับมือพายุไซโคลน 20-22 มี.ค. ฝนถล่มลาดพร้าว-ห้วยขวางน้ำท่วม

(คลิป) เตือน!รับมือพายุไซโคลน 20-22 มี.ค. ฝนถล่มลาดพร้าว-ห้วยขวางน้ำท่วม

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยฉบับ 2 "พายุไซโคลนบริเวณอ่าวเบงกอล ซึ่งจะส่งผลกระทบไทยตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.จนถึง 22 มีนาคมนี้ ทำให้ฝนตกหนัก ขณะที่ในช่วงค่ำวันนี้หลายพื้นที่ กรุงเทพฯฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะที่เขตห้วยขวางที่ปริมาณฝนสูงสุด


ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯในช่วงบ่ายวันที่ 20 มี.ค. ทำให้หลายแห่งได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ห้วยขาวงและลาดพร้าว ที่มีน้ำท่วมผิวถนนและภายในซอยต่าง ๆ  ระดับน้ำประมาณ 30-50 เซ็นติเมตร  อาทิ  ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง และภายในซอยลาดพร้าว 64  ทำให้รถที่สัญจรต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและมีรายงานว่าที่บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว รถติดจำนวนมาก  ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพฯ รายงานว่ามีฝนเล็กน้อย ถึง ปานกลาง บริเวณหลายเขตเช่น บางเขน จตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว  ห้วยขวาง ดินแดง  บางนา ประเวศ ต่อเนื่อง จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี ซึ่งปริมาณฝนสูงสุดอยู่ที่เขตห้วยขวาง 100 มิลลิเมตร 


ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยฉบับ 2 เรื่อง "พายุไซโคลนบริเวณอ่าวเบงกอล  ซึ่งจะส่งผลกระทบไทยตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.จนถึง 22 มีนาคมนี้  คาดการณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนแล้ว  มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 21-22 มีนาคมส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น  ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก  


ขณะที่หลายจังหวัดในภาคเหนือเผชิญกับปัญหาหมอกควันไฟป่า   สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน สรุปสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก  PM2.5  พบว่า ระหว่าง 34-130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  พื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุดที่  130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  นอกจากนี้ยังพบจุดความร้อน  เกิดขึ้น217 จุด  พบในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมากที่สุดถึง 196 จุด ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดับไฟบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งซ้ายพร้อมทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟลุกลาม

      


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง