TNN online เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมส่ง2รุ่นหรูสู้ตลาดครึ่งปีหลัง ต่อยอดผู้นำตลาดPHEV ระดับลักชัวรี

TNN ONLINE

ยานยนต์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมส่ง2รุ่นหรูสู้ตลาดครึ่งปีหลัง ต่อยอดผู้นำตลาดPHEV ระดับลักชัวรี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมส่ง2รุ่นหรูสู้ตลาดครึ่งปีหลัง ต่อยอดผู้นำตลาดPHEV ระดับลักชัวรี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมความสายการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานแบตเตอรี่ รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ต่อยอดจากการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV ระดับลักชัวรี

วันนี้( 24 ส.ค.64) มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตามที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ โดยเริ่มจากการเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบในปี 2568 ได้แก่ MB.EA, AMG.EA และ VAN.EA ซึ่งในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในสายการผลิตให้สอดคล้องกับกลยุทธ์นี้ไว้ก่อนแล้ว ทั้งการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย และการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562 ต่อยอดจากการที่เราเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV ระดับลักชัวรีด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในแต่ละเซกเมนต์ที่สุด โดยก่อนหน้านี้ เรายังมีการประกาศกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพในการขายใหม่ โดยใช้ศูนย์บริการเป็น “พื้นที่สร้างประสบการณ์” เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสารเพื่อสื่อภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ลักชัวรีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจของเราในระยะยาว ทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่พร้อมก้าวไปข้างหน้าทั้งในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป 


สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยการแนะนำ 2 รถยนต์ลักชัวรีรุ่นใหม่ ได้แก่ Mercedes-Maybach GLS ยนตรกรรมที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นอีกระดับของความเป็นรถยนต์เอสยูวีระดับลักชัวรี ที่มอบความหรูหราและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกรายละเอียด และ The new EQS รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกที่ผลิตในประเทศไทยโดยพัฒนาขึ้นมาจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Executive Class ที่หลอมรวมทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อที่มอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเตรียมผลิตและจำหน่ายรถยนต์รุ่น S-Class ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในเวอร์ชัน PHEV ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน The IAA MOBILITY 2021 ในวันที่ 5 กันยายนนี้     เมอร์เซเดส-เบนซ์จะอัปเดตอีกครั้งว่ารถยนต์แต่ละรุ่นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงเวลาใด  


ขณะเดียวกันมีแผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น sub-brand ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้ง Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach โดยล่าสุดได้มีการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ทีทีซี, สตาร์แฟลกไพรมัส และ บีเคเค 


นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังพร้อมยกระดับบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ และพนักงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกคนด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยในส่วนของบริการหลังการขาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ย้ำความพิเศษของโปรแกรมบำรุงรักษาและการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ MBSP ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจไม่รู้จบให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ ด้วยแพ็คเกจที่หลากหลายให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ Compact, Advance, Extra และ Excellent พร้อมทั้งมอบความยืดหยุ่นแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และการขยายการรับประกันคุณภาพโดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งขยายความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 8 ปี 


รวมไปถึงความหลากหลายของอะไหล่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีทั้ง StarParts อะไหล่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ได้มาตรฐานในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 55% เพื่อการบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อายุ 5 ปีขึ้นไป ครอบคลุมทั้งรถยนต์คอมแพ็ค รถยนต์นั่งระดับกลาง รถยนต์เอสยูวี และรถยนต์สปอร์ต และ REMAN part ซึ่งเป็นอะไหล่แท้ที่ผ่านกระบวนการ Remanufacturing ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์คิดค้นขึ้นเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและแรงงานในขั้นตอนการผลิตอะไหล่แท้ชิ้นใหม่ โดยมีการฟื้นฟูสภาพ ตรวจสอบ และทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้อะไหล่ในกลุ่มนี้มีราคาย่อมเยาขึ้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี โดยอะไหล่ REMAN จะมีทั้งในชุดอุปกรณ์หลัก ชิ้นส่วนสำหรับกลไก ระบบหัวฉีดและการบำบัดไอเสีย ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบขับเคลื่อน โดยลูกค้าผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายรุ่นสามารถเข้ารับบริการและเลือกใช้อะไหล่ REMAN ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ 




ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง