

สรุปข่าว
มีข้อถกเถียงกันมานานว่าเราควรออกกำลังกายตอนไหน ถึงจะเห็นผลหรือดีต่อสุขภาพมากที่สุด ล่าสุด นักวิจัยพยายามหาคำตอบเรื่องนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่มีน้ำหนักมากหรือมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วน และพบว่า การออกกำลังกายส่วนใหญ่ทุกวันในช่วงเย็นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน โดยจะช่วยคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีมากขึ้น
มีรายงานชี้ว่า ผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคนในโลกที่เข้าข่ายเป็น "โรคอ้วน" ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่นำไปสู่โรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็งประเภทต่างๆ โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนี้อาจถึง 4 พันล้านคนภายในปี 2593
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน ก็คือ การดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นภาวะที่นำไปสู่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและโรคเบาหวานประเภท 2 ในที่สุด การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดของเรา และอาจร้ายแรงจนถึงทำให้อวัยวะล้มเหลว
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ของออสเตรเลีย เลือกกลุ่มอาสาสมัครราว 3,000 คนที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 เข้าโปรแกรมการออกกำลังกายเช้า บ่าย เย็น ซึ่งระหว่างที่ออกกำลังกายต้องใส่อุปกรณ์พิเศษ เพื่อติดตามผลตลอดระยะเวลา 8 ปี เพื่อค้นหาว่าพวกเขาเหมาะสมกับการออกกำลังกายรูปแบบใด รวมถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ผลปรากฏว่า กลุ่มที่คนออกกำลังกายแบบแอโรบิก "ระดับปานกลางถึงหนัก" ในช่วงเวลา 18.00 น. จะมีความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ "ต่ำที่สุด"
ขณะที่การออกกำลังกายใน "ระดับหนักหน่วง" ในช่วงเวลาเดียวกัน จะทำให้หัวใจและอัตราการหายใจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ความถี่ที่ผู้เข้าร่วมออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนักหน่วงในตอนเย็น ซึ่งวัดจากการออกกำลังกายช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 3 นาที ดูเหมือนจะมีความสำคัญมากกว่าการออกกำลังกายทั้งวัน
นักวิจัยอธิบายว่า ร่างกายของเราต้านทานอินซูลินได้มากที่สุดช่วงเย็น การออกกำลังกายช่วงดึกจะช่วยชดเชยการดื้อต่ออินซูลิน เนื่องจากหัวใจและระบบเมตาบอลิซึมได้รับการฟื้นฟูในช่วงเวลานั้น
ยิ่งกว่านั้น สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาโรคอ้วนและต้องการดูแลสุขภาพ ผลการวิจัย ยังแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายในช่วงสายของวันทำให้ความดันโลหิตดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ช่วยลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและโรคหลอดเลือดหัวใจ
ที่มา: medicalnewstoday
ที่มาข้อมูล : -