

สรุปข่าว
เปิดข้อมูล ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A หากป่วยมีอาการแบบไหน วิธีการรักษาและการป้องกันไม่ให้ติดเชื้ออย่างไร
ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ชนิด A (Influenza) เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยมีลักษณะทางคลินิกที่สำคัญคือ มีไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกลุ่มโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ เนื่องจากเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) มาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเกือบทุกทวีป ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตนับล้านคน
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ซึ่งมี 3 ชนิด (type) คือ A, B และ C ไวรัสชนิด A เป็นชนิดที่ทำให้เกิดการระบาดอย่างกว้างขวางทั่วโลก ไวรัสชนิด B ทำให้เกิดการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนชนิด C มักเป็นการติดเชื้อที่แสดงอาการอย่างอ่อนหรือไม่แสดงอาการ และไม่ทำให้เกิดการระบาด
วิธีการติดต่อ
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อทางการหายใจ โดยจะได้รับเชื้อที่ออกมาปนเปื้อนอยู่ในอากาศเมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด ในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น โรงเรียน โรงงาน การแพร่เชื้อจะเกิดได้มาก นอกจากนี้การแพร่เชื้ออาจเกิดโดยการสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย (droplet transmission) จากมือที่สัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แล้วใช้มือสัมผัสที่จมูกและปาก
ระยะฟักตัว
ประมาณ 1-3 วัน
ระยะติดต่อ
ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการและจะแพร่เชื้อต่อไปอีก 3-5 วันหลังมีอาการในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กอาจแพร่เชื้อได้นานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อในช่วงเวลานั้นได้เช่นกัน
อาการที่พบ
อาการที่พบได้หลังติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ผู้ป่วยจะมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอ บางรายอาจจะมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยปกติแล้วระยะการหายจากโรคจะอยู่ในช่วง 5- 7 วัน แต่บางรายก็อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หอบ เหนื่อย ปอดอักเสบ ซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตได้
กลุ่มคนที่ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นพิเศษจะเป็นคนชราที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำ หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วนที่มีน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หอบหืด ทาลัสซีเมีย เป็นต้น
การรักษาโรค
การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A แพทย์จะจ่ายยาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ละลายเสมหะ ผงเกลือแร่สำหรับคนที่มีอาการท้องเสีย กินได้น้อย ร่างกายอ่อนเพลีย หากมีอาการรุนแรง อาจจะพิจารณานอนโรงพยาบาลร่วมกับการรับประทานยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ((oseltamivir)
การป้องกัน
เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปีที่ระบาด ดังนั้นเราจึงควรฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง แม้นว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหลังการติดเชื้อได้
ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค / โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
ภาพจาก AFP
ที่มาข้อมูล : -