อันตรายหรือไม่? หากมีอาการ "มองเห็นจุดดำ" หรือ "หยากไย่เวลามองท้องฟ้า"

อันตรายหรือไม่? หากมีอาการ "มองเห็นจุดดำ" หรือ "หยากไย่เวลามองท้องฟ้า"

สรุปข่าว

เสี่ยงอันตราย! หากมีอาการ "มองเห็นจุดดำ" หรือ "หยากไย่เวลามองท้องฟ้า" หรือ "ไฟแว๊บขึ้นมาอย่างฉับพลัน" ขณะหลับตาหรืออยู่ในที่มืด ควรพบจักษุแพทย์ตรวจดูจอตาและวุ้นตาอย่างละเอียด


นายแพทย์ไพโรจน์  สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เมื่ออายุมากขึ้นและเข้าสู่วัยกลางคน อวัยวะดวงตาส่วนที่เรียกว่าน้ำวุ้นลูกตาจะมีการเสื่อมตามอายุวัย เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนวุ้นลูกตาจะเริ่มเสื่อมจับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ หรือเส้นเล็กๆ เป็นการเสื่อมไปตามธรรมชาติ บางทีจุดลอย เป็นเจลหรือเศษเซลล์ที่จับกันเป็นก้อนเล็กลอยอยู่ในวุ้นลูกตา โดยมากจุดดำลอยพบได้ในผู้ที่สายตาสั้นหรือเกิดกับผู้ที่ผ่าตัดตาหรือผู้ที่ฉายเลเซอร์ 

ซึ่งอาจจะรบกวนการมองเห็นหรือเวลาอ่านตัวหนังสือ แต่ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม สมองจะทำการปรับให้มองไม่เห็นจุดเงานี้ แม้จุดจะยังอยู่ อาจจะใช้วิธีกลอกตาไปมาจนกว่าจุดลอยจะลอยหลีกการบดบังการมองเห็นได้

นายแพทย์อาคม  ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยมาพบ  จักษุแพทย์ด้วยโรควุ้นตาเสื่อมมากขึ้น อาการมองเห็นจุดดำลอยไปมา เหมือนหยากไย่ลอยไปมาเหมือนคราบที่ติดกระจก เห็นชัดเมื่อมองไปยังภาพที่มีสีสว่างมองไปที่พื้นผิวเรียบ ฝาผนังสีพื้น หรือท้องฟ้า

หากตรวจพบอาการแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น ประสาทตาฉีกขาด อาการคือ จะมองเห็นแสงแฟลช ไฟแว๊บ ฟ้าแลบในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ด้วยการดำเนินของโรควุ้นตาเสื่อมนี้จะดึงตัวและทำให้จอประสาทตาฉีกขาด อาจทำให้มีเลือดออกเป็นจุด มองเห็นเป็นจุดลอยบดบังสายตารอยขาดที่จอประสาทตานี้เป็นอันตรายและก่อให้เกิดจอประสาทตาลอกได้ในที่สุด 

แพทย์หญิงอุมาภรณ์  จิตตวัฒนรัตน์ จักษุแพทย์  ศูนย์จอตาและวุ้นตา กล่าวเสริมว่า วุ้นตาเป็นสารใสคล้ายเจลบรรจุอยู่ภายใน ลูกตาส่วนหลัง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้แสงผ่าน ให้สารอาหารแก่จอตาและผนังลูกตาชั้นในการมองเห็นจุดดำลอยไปมาหรือหยากไย่ลอยไปมา บ้างเห็นเป็นจุด เป็นเส้นคล้ายใยแมงมุมเคลื่อนไปมาเมื่อกลอกตา 

ส่วนใหญ่สาเหตุมักเกิดจากภาวะวุ้นตาเสื่อม ซึ่งเดิมวุ้นตามีลักษณะเหมือนเจลลี่แต่เมื่ออายุมากขึ้นภาวะวุ้นตาจะเป็นลักษณะของเหลวมากขึ้น จึงพบว่าเส้นใยในวุ้นตาเป็นเงากระทบบนจอตาซึ่งทำให้เห็นเป็นเงาจุดดำลอยไปมานั่นเอง ซึ่งความเสี่ยงที่ทำให้เกิดด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ภาวะสายตาสั้น อุบัติเหตุทางตา หรือภายหลังการผ่าตัดตา โรคเบาหวานขึ้นจอตา และภาวะอักเสบในตา 

ซึ่งสาเหตุจากอายุที่มากขึ้นวุ้นตาเดิมที่มีลักษณะเป็นเจลลี่จะเปลี่ยนเป็นของเหลวมากขึ้น และนำมาซึ่งการลอกตัวหลุดจากชั้นจอตาด้านในเป็นเหตุให้เกิดอาการเห็นจุดดำลอย ภาวะอักเสบในวุ้นตาและจอตาด้านหลัง ซึ่งมีสาเหตุได้จาการติดเชื้อ ภาวะอักเสบอันเกิดจากภูมิคุ้มกันต่อตนเอง เลือดออกเข้าในวุ้นตา มีสาเหตุได้จากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดดำอุดตันภายในตา จอตาฉีกขาด หรือจอตาลอก 

การผ่าตัดตาหรือการฉีดขาเข้าวุ้นตาก็เป็นอีกสาเหตุซึ่งการฉีดยาเข้าวุ้นตาอาจทำให้มีฟองอากาศซึ่งเป็นสาเหตุเห็นจุดดำลอยไปมา แต่จะหายไปได้เองหรือการผ่าตัดจอตาโดยใส่น้ำมันหรือก๊าซกดทับจอตาจะทำให้เป็นจุดดำลอยไปมาได้  

หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อไหร่ควรรีบพบจักษุแพทย์ ซึ่งหากมีอาการเมื่อพบจุดดำลอยไปมาเพิ่มขึ้นทันทีทันใดมากกว่าในภาวะปกติ พบแสงแฟสชในตาข้างที่พบเห็นจุดดำลอยไปมา หรือเห็นม่านดำในส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพการมองเห็น


อันตรายหรือไม่? หากมีอาการ มองเห็นจุดดำ หรือ หยากไย่เวลามองท้องฟ้า




ข้อมูลจาก กรมการแพทย์

ภาพจาก AFP

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

ดวงตา
มองเห็นจุดดำ
หยากไย่
ไฟแว๊บ
หลับตา
จักษุแพทย์
จอตา
วุ้นตา