

สรุปข่าว
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็ง เผย แต่ละปีไทยจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 140,000 คน หรือ ประมาณ 400 คนต่อวัน โดยชายไทย พบ เป็นมะเร็งตับและท่อน้ำดีมากที่สุด ส่วนหญิงไทย พบ เป็นมะเร็งเต้านม อันดับ1
วันนี้( 9 ธ.ค.65) บริเวณ สถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้จัดกิจกรรมวันต่อต้านมะเร็งแห่งชาติ ในวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี ภายในงาน มีกิจกรรม การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การให้ความรู้คัดกรองมะเร็งเต้านมเบื้องต้นด้วยตัวเอง และการสาธิตการตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยชุดตรวจแบบเร็ว ซึ่งจะทำการตรวจคัดกรองประชาชนอายุ 50-70 ปี
การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระด้วยวิธี FIT Test ทุกๆ 2 ปี ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหากพบผลผิดปกติก็จะวินิจฉัยโรคด้วยการส่องกล้องต่อไป
โดยพบว่า กิจกรรมการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยชุดตรวจด้วยตัวเองมีประชาชนกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ให้ความสนใจคัดกรองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ความรู้ถึงการตรวจด้วยตัวเอง โดยประชาชนจะนำชุดตรวจไปเก็บสิ่งตรวจภายในห้องน้ำ และส่งให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจในห้องปฏิบัติการ ก่อนจะแจ้งผลผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ รู้ผล15วันทำการ ประชาชนสามารถที่จะเข้ารับชุดตรวจคัดกรองได้จนถึงเวลา 17.30 น.
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและอัตราการเกิดโรคยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งมีโอกาสเกิดมะเร็ง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตและ สภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดมะเร็งมากขึ้น
จากข้อมูลสถิติทะเบียนมะเร็งประเทศไทย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ รายงานว่า แต่ละปีจะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน หรือคิด เป็นประมาณ 400 คนต่อวัน โดยโรคมะเร็ง ที่พบมาก 5 อันดับแรกในคนไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักและมะเร็งปากมดลูก
สำหรับมะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรกในชายไทยอันดับ 1 ร้อยละ 33.2 มะเร็งตับและท่อน้ำดี , มะเร็งปอด ร้อยละ 22.8 , มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ร้อยละ 18.7 , มะเร็งต่อมลูกหมาก ร้อยละ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ร้อยละ 6.6
ส่วน มะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรกในหญิงไทย อันดับ 1 มะเร็งเต้านม ร้อยละ 34.2 ,มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ร้อยละ 13.3 , มะเร็งตับและท่อน้ำดี ร้อยละ 12.2 , มะเร็งปอดร้อยละ 11.5 , มะเร็งปากมดลูกร้อยละ 11.1
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุถึง สาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง มีทั้งปัจจัยภายในร่างกาย เช่น พันธุกรรมมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 5-10 และปัจจัยภายนอกร่างกายประมาณ ร้อยละ 90-95 พฤติกรรมการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงการได้รับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตโดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงจะทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งอาจลดลงได้ถึง ร้อยละ 40
ทั้งนี้ มะเร็งบางชนิด สามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง .
แฟ้มภาพ AFP
ที่มาข้อมูล : -