
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เบรนท์ฟอร์ด เจ้าถิ่น ยังมีลุ้นที่จะจบฤดูกาลในอันดับที่ 8 ได้อยู่ หากว่าเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ได้ ขณะที่ทีมปีศาจแดงไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ นอกจากเก็บแรงไว้ลุยในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เท่านั้น ทำให้เกมนี้ รูเบน อาโมริม กุนซือของทีมเยือนมีการโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่ง และพักบรรดาตัวหลักไว้ที่ข้างสนามหลายราย อาทิ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, กาเซมิโร่ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นต้น
รูปเกมในครึ่งแรกเป็น เบรนท์ฟอร์ด ที่เริ่มต้นเกมได้ดีกว่า แต่กลับเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ เมสัน เมาท์ ยิงจ่อๆ ไม่พลาด ช่วยให้ทีมปีศาจแดงบุกมานำก่อน 1-0
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน เบรนท์ฟอร์ด ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จาก ไมเคิ่ล คาโยเด้ ที่ยิงไปแฉลบ ลุค ชอว์ เข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 27 หลังจากนั้นอีกแค่ 6 นาที เบรนท์ฟอร์ด ก็พลิกแซงนำ 2-1 จากการโหม่งของ เควิน ชาเด้ ทำให้จบครึ่งแรก เบรนท์ฟอร์ด ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 2-1
สรุปข่าว
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เบรนท์ฟอร์ด เจ้าถิ่น ยังมีลุ้นที่จะจบฤดูกาลในอันดับที่ 8 ได้อยู่ หากว่าเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ได้ ขณะที่ทีมปีศาจแดงไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ นอกจากเก็บแรงไว้ลุยในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เท่านั้น ทำให้เกมนี้ รูเบน อาโมริม กุนซือของทีมเยือนมีการโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่ง และพักบรรดาตัวหลักไว้ที่ข้างสนามหลายราย อาทิ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, กาเซมิโร่ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นต้น
รูปเกมในครึ่งแรกเป็น เบรนท์ฟอร์ด ที่เริ่มต้นเกมได้ดีกว่า แต่กลับเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ เมสัน เมาท์ ยิงจ่อๆ ไม่พลาด ช่วยให้ทีมปีศาจแดงบุกมานำก่อน 1-0
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน เบรนท์ฟอร์ด ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จาก ไมเคิ่ล คาโยเด้ ที่ยิงไปแฉลบ ลุค ชอว์ เข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 27 หลังจากนั้นอีกแค่ 6 นาที เบรนท์ฟอร์ด ก็พลิกแซงนำ 2-1 จากการโหม่งของ เควิน ชาเด้ ทำให้จบครึ่งแรก เบรนท์ฟอร์ด ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 2-1
ครึ่งหลัง อาโมริม พยายามแก้เกมด้วยการส่ง เลนี่ โยโร่ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ลงมาแทน ลุค ชอว์ และ แพทริก ดอร์กู ที่เล่นไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เกมก็ยังไม่ดีขึ้น ก่อนจะมาโดน เบรนท์ฟอร์ด ยิงเพิ่มอีก 2 ประตู จาก เควิน ชาเด้ และ โยอันน์ วิสซ่า ในนาทีที่ 70 และ 74 ตามลำดับ ทำให้ เบรนท์ฟอร์ด นำห่าง 4-1
อย่างไรก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ก่อนจะฮึดยิงตีตื้นขึ้นมาได้ 2 ประตูจากลูกยิงไกลสุดสวยของ การ์นาโช่ ในนาทีที่ 82 และอีก 1 ลูกมาจาก อาหมัด ดิยัลโล่ ที่เลี้ยงตัดจากขวาเข้ากลาง ก่อนจะตะบันด้วยเท้าซ้าย บอลลอดขา มาร์ค เฟล็คเค่น นายทวารเจ้าถิ่นเข้าประตูไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น ทำให้ครบ 90 นาที เบรนท์ฟอร์ด เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอย่างเข้มข้น 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 52 แต้มจาก 35 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 8 ขงองตาราง ส่วนทีมปีศาจแดงแพ้เป็นนัดที่ 16 ในฤดูกาลนี้ ตกลงมาอยู่อันดับที่ 15 จากการมีแค่ 39 คะแนนจาก 35 เกม
ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เบรนท์ฟอร์ด (4-2-3-1) : มาร์ค เฟล็คเค่น : ไมเคิ่ล คาโยเด้, เนธาน คอลลินส์, เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ : คริสเตียน นอร์การ์ด, เยฮอร์ ยาร์โมเลียค : ไบรอัน เอ็มเบอโม่, มิคเคล ดามส์การ์ด, เควิน ชาเด้ : โยอันน์ วิสซ่า
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อัลทาย บายินดีร์ : ไทเลอร์ เฟรดริกสัน, มาไตส์ เดอ ลิกท์, ลุค ชอว์ : แพทริก ดอร์กู, มานูเอล อูการ์เต้, ค็อบบี้ เมนู, แฮร์รี่ อามาสส์ : เมสัน เมาท์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ : ชีโด โอบี มิเกล