การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าจะไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้แล้ว แต่ อาร์เซน่อล ยังต้องพยายามเก็บ 3 แต้มต่อไป เพื่อรักษาอันดับที่ 2 ของตัวเอง หลังถูก แมนฯ ซิตี้ ไล่จี้เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการเอาชนะในเกมนี้ได้ ยังช่วยเรื่องของกำลังใจของทีม ก่อนหน้าที่จะต้องบุกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ช่วงกลางสัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วย
ขณะที่ บอร์นมัธ แม้ว่าโอกาสที่จะลุ้นติดกลุ่มท็อป 5 ในการคว้าโควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าจะค่อนข้างยาก แต่พวกเขายังมีโอกาสลุ้นอันดับ 8 แบบเต็มตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอันดับที่ได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ทำให้เกมนี้พวกเขาจัดตัวผู้เล่นมาแบบจัดเต็ม แนวรุกนำโดย เอวานิลสัน, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, จัสติน ไคลเวิร์ต และ ดังโก้ วัตทาร่า
สรุปข่าว
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าจะไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้แล้ว แต่ อาร์เซน่อล ยังต้องพยายามเก็บ 3 แต้มต่อไป เพื่อรักษาอันดับที่ 2 ของตัวเอง หลังถูก แมนฯ ซิตี้ ไล่จี้เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการเอาชนะในเกมนี้ได้ ยังช่วยเรื่องของกำลังใจของทีม ก่อนหน้าที่จะต้องบุกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ช่วงกลางสัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วย
ขณะที่ บอร์นมัธ แม้ว่าโอกาสที่จะลุ้นติดกลุ่มท็อป 5 ในการคว้าโควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าจะค่อนข้างยาก แต่พวกเขายังมีโอกาสลุ้นอันดับ 8 แบบเต็มตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอันดับที่ได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ทำให้เกมนี้พวกเขาจัดตัวผู้เล่นมาแบบจัดเต็ม แนวรุกนำโดย เอวานิลสัน, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, จัสติน ไคลเวิร์ต และ ดังโก้ วัตทาร่า
ครึ่งแรก อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายเล่นได้เหนือกว่า พวกเขาได้ลุ้นประตูหลายจังหวะในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จ่ายบอลให้ เดแคลน ไรซ์ ยิงแบบได้ลุ้นถึง 2 หน หรือจะเป็นจังหวะโหม่งของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ไปติดเซฟของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารของ บอร์นมัธ
จนกระทั่งนาทีที่ 34 อาร์เซน่อล ก็ขึ้นนำก่อนจนได้ จากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด จ่ายตัดหลังแบ็กให้ เดแคลน ไรซ์ ที่วิ่งสอดขึ้นมารับบอล ก่อนจะแตะบอลหลบ เกป้า และยิงเข้าไปแบบง่ายดาย ส่งให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 1-0
หลังจากนั้นในช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก บอร์นมัธ มีโอกาสได้ลุ้นตีเสมอหลายครั้ง จากจังหวะที่ จัสติน ไคลเวิร์ต พาบอลตะลุยขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะกระชากตัดเข้าในแล้วยิงไปแฉลบ วิลเลี่ยม ซาลิบา ออกหลัง ก่อนจะได้เตะมุมและเป็น เอวานิลสัน ที่โหม่งบอลไม่ตรงกรอบ พลาดโอกาสตีเสมอไป ทำให้จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะยิงประตูที่สองหลายครั้ง ทั้งจากจังหวะที่ บูคาโย่ ซาก้า ได้โหม่งจ่อๆ หน้าประตูในนาทีที่ 48 แต่เบาเกินไป รวมถึงในนาทีที่ 56 ที่ ซาก้า ได้โอกาสยิงอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบอีก
จนกระทั่งนาทีที่ 66 บอร์นมัธ ก็ตามตีเสมอจนได้ เมื่อได้ลูกทุ่มทางฝั่งขวา และเป็น อองตวน เซเมนโย่ ทุ่มไกลเข้าเขตโทษให้ ดีน เฮาเซ่น กองหลังตัวเก่งเข้ามาโหม่งเล่นทางตุงตาข่ายให้ทีมเยือนตีเสมอเป็น 1-1
หลังจากนั้นนาทีที่ 75 แฟนบอลเจ้าถิ่นเงียบกันทั้งสนาม เมื่อ บอร์นมัธ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซ์ สก็อตต์ เปิดเข้าไปที่กลางประตูให้ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ โหม่งเช็ดต่อให้ เอวานิลสัน ยิงจ่อๆ ที่เสาสองเข้าประตูไป ส่งให้ บอร์นมัธ พลิกขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ
ช่วงเวลาที่เหลือ อาร์เซน่อล พยายามบุกอย่างหนัก แต่ทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ ทำให้จบเกม อาร์เซน่อล พ่าย บอร์นมัธ 1-2 ส่งผลให้ยังไม่การันตีว่าทีมปืนใหญ่จะคว้าโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าแน่นอนแล้ว แต่กระนั้นโอกาสก็ยังคงอยู่ในมือตัวเอง หลังยังมีแต้มนำอันดับ 6 อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อยู่ 7 คะแนน แต่ทีมเจ้าป่าแข่งน้อยกว่า 1 นัด
ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า : เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ยาคุบ คิวิออร์, ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ : มาร์ติน โอเดอการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ : บูคาโย่ ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : ฮูเลียน อาเราโฮ่, อิลเลีย ซาบาร์นี่, ดีน เฮาเซ่น, มิลอช เคอร์เคซ : ไทเลอร์ อดัมส์, ลูอิส คุ้ก : มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, จัสติน ไคลเวิร์ต, ดังโก้ วัตทาร่า : เอวานิลสัน
