
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 22.30 น. อาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)
สภาพความพร้อม เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถือว่ามีผลงานที่ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้แค่ 2 เกมจากการลงเล่น 13 นัดหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 2 และชนะได้ถึง 9 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปถล่ม เยอร์การ์เด้น 4-1 ในศึก ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดคือการเปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ เชลซี ชนะมา 3 นัดติดต่อกัน และไม่แพ้ในลีกมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว เก็บไปแล้ว 60 คะแนนจาก 34 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง และเกมนี้พวกเขาคาดหวังที่จะเก็บ 3 แต้ม เพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ต่อไป แม้ว่าต้องเจอกับทีมแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ก็ตาม
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี มีนักเตะบาดเจ็บอยู่พอสมควร โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, มาร์ก กิว, โรเบิร์ต ซานเชซ, มาโล กุสโต้ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ยังไม่หายเจ็บ รวมถึง มีไคโล่ มูดริค ที่ยังติดโทษแบนยาวเหมือนเดิม แต่ส่วนที่้เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยปั้นเกม ขณะที่แดนกลางจะใช้ โรเมโอ ลาเวีย คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
สรุปข่าว
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 22.30 น. อาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)
สภาพความพร้อม เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถือว่ามีผลงานที่ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้แค่ 2 เกมจากการลงเล่น 13 นัดหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 2 และชนะได้ถึง 9 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปถล่ม เยอร์การ์เด้น 4-1 ในศึก ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดคือการเปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ เชลซี ชนะมา 3 นัดติดต่อกัน และไม่แพ้ในลีกมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว เก็บไปแล้ว 60 คะแนนจาก 34 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง และเกมนี้พวกเขาคาดหวังที่จะเก็บ 3 แต้ม เพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ต่อไป แม้ว่าต้องเจอกับทีมแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ก็ตาม
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี มีนักเตะบาดเจ็บอยู่พอสมควร โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, มาร์ก กิว, โรเบิร์ต ซานเชซ, มาโล กุสโต้ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ยังไม่หายเจ็บ รวมถึง มีไคโล่ มูดริค ที่ยังติดโทษแบนยาวเหมือนเดิม แต่ส่วนที่้เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยปั้นเกม ขณะที่แดนกลางจะใช้ โรเมโอ ลาเวีย คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงภายใต้การนำทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้เป็นที่เรียบร้อย หลังเปิดบ้านถล่ม สเปอร์ส ไปขาดลอย 5-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้พวกเขาแค่ลงเล่นให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น เพื่อรอรับถ้วยแชมป์และฉลองร่วมกับแฟนๆ หลังฤดูกาลจบลงในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะที่ฟอร์มการเล่นช่วงที่ผ่านมาก็ทำได้ยอดเยี่ยม เมื่อชนะมาตลอดใน 3 เกมหลังสุด เก็บไปแล้ว 82 คะแนนจาก 34 เกม ถ้าจะมีอะไรให้เป็นความท้าทาย ก็อาจจะเป็นการพยายามเก็บชัยชนะในอีก 4 เกมที่เหลือให้ได้ทั้งหมด เพื่อทำแต้มให้ได้ทะลุ 90 คะแนน แต่ดูแล้วก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไร
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล แทบไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเลย โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ โจ โกเมซ และ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล ที่เป็นแชมป์ไปแล้ว อาจจะมีการโรเตชั่นทีม เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาตัวสำรองได้ลงสนามบ้าง ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ ดีโอโก้ โชต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์ และ หลุยส์ ดิอาซ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางน่าจะยังใช้ ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค คุมเกมร่วมกับ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ตามเดิม
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : มอยเซส ไกเซโด้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส : ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์, หลุยส์ ดิอาซ : ดีโอโก้ โชต้า
ความน่าจะเป็น : เชลซี สู้เต็มที่อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาต้องการคว้า 3 แต้มเพื่อจบฤดูกาลในกลุ่มท็อป 5 ของตารางให้ได้ เพื่อคว้าโควต้าไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า แถมฟอร์มช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว และเกมนี้ได้เล่นในบ้าน ถือว่าได้เปรียบเรื่องของเสียงเชียร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์มาครองได้แล้ว อาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้โฟกัสมากเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังต้องเต็มที่เพื่อศักดิ์ศรี ดูแล้วเกมนี้จะเป็นเกมที่สูสีกัน เชลซี น่าจะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็เล่นตามจังหวะของตัวเองไป ถ้าเป็นการเจอกันก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล อาจจะดูดีกว่า แต่กับสถานการณ์ในตอนนี้เชื่อว่า เชลซี แย่ที่สุดก็ไม่น่าจะถึงกับแพ้คาบ้าน
สกอร์ที่คาด : เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : Premier League