
คริสทีน ฟิกเกนเนอร์ (Christine Figgener) นักชีววิทยาทางทะเลชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการรณรงค์ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ยืนยันว่าความพยายามในการลดมลพิษจากพลาสติกจะยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาสนับสนุนการใช้หลอดพลาสติกก็ตาม
ประเด็นนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 กุมภาพันธ์) ให้ ยกเลิกแผนการลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในพื้นที่ของรัฐบาลกลางภายในปี 2032 ซึ่งเป็นแผนที่ริเริ่มขึ้นในยุคของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยนโยบายดังกล่าวเคยกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลางทยอยลดการใช้พลาสติก เช่น หลอด ถุง และบรรจุภัณฑ์ ตามแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเลและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สรุปข่าว
“ฟิกเกนเนอร์” กลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เรื่องนี้ หลังจากเธอโพสต์วิดีโอไวรัลในปี 2015 ซึ่งแสดงให้เห็นทีมของเธอช่วยนำหลอดพลาสติกออกจากจมูกของเต่าทะเลในน่านน้ำคอสตาริกา วิดีโอดังกล่าวสร้างความตระหนักรู้ไปทั่วโลกเกี่ยวกับอันตรายของพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่มีต่อสัตว์ทะเลและระบบนิเวศ
หลังจากนั้น การเคลื่อนไหวเพื่อแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งภาคประชาชนและรัฐบาลหลายประเทศ จนนำไปสู่การออกกฎหมายจำกัดหรือห้ามใช้พลาสติกในหลายพื้นที่ เช่น ฝรั่งเศสในปี 2021 และอินเดียในปี 2022
แม้ว่าการแบนหลอดพลาสติกจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ฟิกเกนเนอร์เห็นว่าปัญหามลพิษทางทะเลยังมีแง่มุมที่กว้างกว่านั้น เธอกล่าวว่า “การมุ่งเป้าไปที่หลอดพลาสติกเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญกว่านี้อีกมาก เช่น การลดขยะพลาสติกในระดับอุตสาหกรรมและการจัดการของเสียในมหาสมุทร”
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักวิทยาศาสตร์หลายคนยังคงผลักดันให้มีการควบคุมการใช้พลาสติกในวงกว้าง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลาสติกจำนวนมาก เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค พวกเขาเรียกร้องให้มีการพัฒนาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงระบบการจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ว่านโยบายของทรัมป์จะเป็นการถอยหลังในด้านการลดขยะพลาสติก แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากระแสต่อต้านพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจะยังคงดำเนินต่อไป โดยมีประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง