
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ของทุกปีตรงกับวันรักนกเงือก (Love Hornbill Day) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ดำเนินการศึกษาวิจัยนกเงือกเป็นระยะเวลาหลายสิบปี เพื่อให้สังคมและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์นกเงือกซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งนอกจากจะเป็นวันที่สะท้อนถึงความสำคัญของนกเงือกและบทบาทของมันในระบบนิเวศแล้ว นกเงือกยังถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักแท้ เพราะพฤติกรรมของมันที่มีความซื่อสัตย์ต่อคู่ครองตลอดชีวิต
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านกเงือกถือกำเนิดขึ้นมาไม่น้อยกว่า 45 ล้านปี นกเงือกเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากนกเงือกมีมีพฤติกรรมการเลือกกินผลไม้สุกและนำเมล็ดทิ้งไว้ในพื้นที่ต่าง ๆ จนได้รับฉายาว่า "นักปลูกป่ามือฉมัง" อีกทั้งยังช่วยควบคุมประชากรสัตว์ขนาดเล็กอย่างแมลงและหนูอีกด้วย

สรุปข่าว
หนึ่งในลักษณะที่โดดเด่นของ “นกเงือก” คือพฤติกรรมการจับคู่ที่ยั่งยืน เมื่อนกเงือกตัวผู้และตัวเมียเลือกคู่กันแล้ว พวกมันจะอยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ตัวเมียจะเข้าไปอยู่ในโพรงไม้และปิดปากโพรงด้วยโคลน เหลือเพียงช่องเล็ก ๆ เพื่อรับอาหารจากตัวผู้ การที่ตัวผู้ต้องออกหาอาหารและดูแลตัวเมียกับลูกอ่อนเป็นเวลาหลายเดือนแสดงถึงความอดทนและความเสียสละ ซึ่งเป็นคุณค่าของรักแท้อย่างแท้จริง
“นกเงือก” ไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนของความรักเท่านั้น แต่ยังเป็นนักกระจายพันธุ์พืชที่สำคัญของป่า เพราะพวกมันกินผลไม้และช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ไปทั่วพื้นที่ป่า สิ่งนี้มีส่วนช่วยให้ระบบนิเวศมีความสมดุลและสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน นกเงือกต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากการทำลายป่าไม้และการลักลอบล่า ทำให้จำนวนประชากรของพวกมันลดลงอย่างน่าตกใจ
วันรักนกเงือกไม่ใช่แค่วันแห่งการเฉลิมฉลองความรักของนกเงือกเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่กระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ การอนุรักษ์นกเงือกหมายถึงการรักษาพื้นที่ป่าซึ่งเป็นบ้านของพวกมัน และยังเป็นการปกป้องแหล่งต้นน้ำ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
เราจะช่วยนกเงือกได้อย่างไร?
1. สนับสนุนโครงการอนุรักษ์ – มีหลายองค์กรที่ทำงานเพื่อปกป้องนกเงือกและป่าฝน เช่น มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก (Hornbill Research Foundation)
2. ลดการใช้ทรัพยากรจากป่าไม้ – การเลือกใช้ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า
3. กระจายความรู้ – การให้ความรู้แก่เยาวชนและชุมชนเกี่ยวกับความสำคัญของนกเงือกและป่าไม้
เรื่องราวของนกเงือกสะท้อนให้เห็นว่าความรักแท้ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึก แต่ยังหมายถึงความรับผิดชอบ ความเสียสละ และการดูแลกันและกัน เช่นเดียวกับที่มนุษย์ต้องมีความรับผิดชอบต่อธรรมชาติและโลกของเรา การปกป้องนกเงือกและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่ภารกิจของนักอนุรักษ์เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแล เพื่อให้รักแท้ของนกเงือกยังคงอยู่คู่ผืนป่าไปตลอดกาล
ดังนั้น ในวันรักนกเงือกปีนี้ เราทุกคนสามารถแสดงความรักที่มีต่อโลกได้โดยการร่วมมือกันอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความรักที่เรามีให้กับโลกใบนี้
ที่มาข้อมูล : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ที่มารูปภาพ : ENVATO