นักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมจากฮิวแมนไรท์วอชระบุว่า บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรประมาณ 3,300 คนต่อปีจากการสัมผัสมลพิษทางอากาศ หรือ PM2.5 ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองซาราเยโว หรือเมืองหลวงนั่นเอง จากงานวิจัยพบว่าส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศเกิดในผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป
สรุปข่าว
นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่น ๆ ในยุโรปที่เผชิญปัญหามลพิษเช่นกัน เช่น มาซิโดเนียเหนือ โปแลนด์ โครเอเชีย โรมาเนีย และกรีซ
สำหรับบอสเนียเผชิญกับมลพิษทางอากาศเป็นประจำเพราะเป็นผลมาจากการใช้ถ่านหินและไม้ในการผลิตพลังงานและทำความร้อนในช่วงฤดูหนาว ทำให้เมืองต่างๆ ของประเทศนี้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกในช่วงเดือนฤดูหนาว การผลิตไฟฟ้าของประเทศส่วนใหญ่เกิดจากการเผาถ่านหินลิกไนต์ ซึ่งเป็นถ่านหินที่มีคุณภาพต่ำและก่อให้เกิดมลพิษมาก อีกทั้งยังมีการใช้ไม้และวัสดุจากพืชในการทำความร้อนในบ้าน การใช้ยานพาหนะที่เก่าและไม่ค่อยมีการบำรุงรักษาก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศ อีกปัจจัยที่ทำให้มลพิษในบอสเนียสูงคือสภาพภูมิประเทศ ซึ่งทำให้การกระจายตัวของมลพิษในอากาศทำได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัดและการสะสมของหมอกควันในพื้นที่ที่มีการล้อมรอบด้วยภูเขาด้วย
หลายประเทศประสบปัญหามลพิษทางอากาศสูง ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการส่งเสริมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ช่วยลดมลพิษ พร้อมทั้งการสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน