

สรุปข่าว
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกทำการศึกษาร่วมกัน ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications พบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โลกจะเกิด “ฟ้าผ่าความร้อน” (Heat Lightning) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก “ภาวะโลกร้อน” ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดไฟป่าเพิ่มมากขึ้นในหลายส่วนของโลก
ปกติแล้วฟ้าผ่าจะมีใช้เวลาการเกิดประมาณ 40 มิลลิวินาทีจนถึงเกือบหนึ่งในสามของวินาที แต่ด้วยแบบจำลองสภาพภูมิอากาศในอนาคต ทำให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟ้าผ่าจะเกิดถี่ยิ่งขึ้น จาก 3 ครั้งต่อวินาที เป็น 4 ครั้งต่อวินาที และภายในปี 2090 ฟ้าผ่าจะเกิดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28
นักวิจัยวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมการเกิดไฟป่าในสหรัฐระหว่างช่วงปี 1992-2018 พบว่าร้อยละ 90 ของไฟป่าที่ทำการสังเกต มีแหล่งกำเนิดมาจาก “ฟ้าผ่าความร้อน” โดยยิ่งเกิดฟ้าผ่านานเท่าไหร่ยิ่งจะทำให้สามารถถ่ายเทความร้อนไปยังวัตถุติดไฟที่อยู่ข้างเคียงได้ดีมากขึ้น เช่น ต้นไม้ พุ่มไม้ และแม้แต่หญ้า เพราะฟ้าผ่ามีความร้อนสูงมากกว่าพื้นผิวของดวงอาทิตย์ถึงประมาณ 5 เท่า
เมื่อโลกร้อนขึ้น ภูมิภาคที่จะเกิดฟ้าผ่าร้อนเพิ่มมากขึ้น ทำให้รูปแบบสภาพอากาศก็เปลี่ยนไป นักวิทยาศาสตร์พบว่าบางส่วนของอเมริกาใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และแอฟริกาล้วนตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่ามากขึ้น โดยอเมริกาเหนือจะมีแนวโน้มที่จะเกิดฟ้าผ่าและไฟป่ามากที่สุด
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงส่งผลทำให้เกิดฟ้าผ่าเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งฟ้าผ่าที่ทำให้เกิดไฟป่า และฟ้าผ่าลงพื้นจนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
.
ภาพ: UNSPLASH
ที่มา: Reuters
ที่มาข้อมูล : -