ถอดบทเรียน ‘แผ่นดินไหวญี่ปุ่น’ ปรับใช้กับไทย เฝ้าระวัง ‘กาญจนบุรี’

ถอดบทเรียน ‘แผ่นดินไหวญี่ปุ่น’ ปรับใช้กับไทย เฝ้าระวัง ‘กาญจนบุรี’

สรุปข่าว

ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ ร่วมกับคณะอนุกรรมการผลกระทบจากแผ่นดินไหวและแรงลม วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหายหลังเกิดเหตุแผ่นไหวบริเวณคาบสมุทรโนโตะและจังหวัดอิชิกาวา เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 มาถอดบทเรียนนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับภูมิประเทศของไทย


ศาสตราจารย์ ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการนำทีมลงพื้นที่ได้เห็นปัญหาหลายมิติ และเห็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านธรณีวิทยาหลายอย่าง เช่น หลังเกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดินอย่างรุนแรง นอกจากเกิดสึนามิ บางพื้นที่ไฟไหม้ แรงสั่นสะเทือนยังทำให้จากดินแข็งเปลี่ยนเป็นโคลนทรายเหลว และแผ่นดินยกตัวขึ้นสูง 3-4 เมตร ซึ่งทั้งหมดเป็นบทเรียนที่สามารถนำมาใช้เพื่อเตรียมรับมือรวมถึงป้องกันหากเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะแผ่นดินไหวรุนแรงคล้ายญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับประเทศไทย เหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน ที่เกิดสึนามิถล่มหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทย และยังเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ในจังหวัดเชียงรายเมื่อปี 2557 


ทั้งนี้นักวิจัยของไทยได้ทำการศึกษาจากรอยเลื่อนใต้พื้นดินพบว่า แม้จังหวัดเชียงรายอาจไม่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเหมือนคาบสมุทรโนโตะ แต่หากเกิดแรงสั่นสะเทือนที่ไม่มากก็สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพดินจากดินทรายกลายเป็นดินเหลวได้ และส่งผลต่อโครงสร้างอาคารบ้านเรือน ดังนั้นไทยต้องปรับปรุงมาตรฐานการออกแบบฐานรากของอาคารให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นเหมือนญี่ปุ่น เพราะจากแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ในคาบสมุทรโนโตะ ถึงจะรุนแรง ดินเปลี่ยนเป็นโคลน แต่อาคารบ้านเรือนของชาวญี่ปุ่นถูกออกแบบมาอย่างแข็งแรง มีความพร้อมต้านรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี 


ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยต้องปรับปรุงและนำมาเป็นบทเรียน คือ ระบบแจ้งเตือนภัยสึนามิหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งญี่ปุ่นถึงจะจัดการภัยได้ยากเพราะหลังแผ่นดินไหวสึนามิจะเข้าฝั่งเร็วแทบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ญี่ปุ่นกลับมีระบบแจ้งเตือนภัยสูง โดยใช้ระบบแจ้งอัตโนมัติไม่ผ่านขั้นตอนมาก และไม่ต้องใช้คนควบคุม รวมถึงยังมีระบบแจ้งเตือนเป็นข้อความแม้ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่นใด ซึ่งไทยควรนำระบบนี้มาพัฒนาใช้ด้วย


ส่วนสถานการณ์ภาพรวมรอยเลื่อนใต้ดินในไทย ที่มีโอกาสจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ ย้ำว่า ในพื้นภาคเหนือทุกจังหวัด และภาคตะวันตก อย่างจังหวัดกาญจนบุรี มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ได้เหมือนกับที่เคยเกิดในจังหวัดเชียงราย ขณะเดียวกันในประเทศไทยยังพบรอยเลื่อนขนาดใหญ่ 14 แห่ง บางรอยอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 ได้ แต่ต้องใช้เวลาสะสมพลังงานเป็นพันปี หรือในไทยอาจเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นทุก ๆ 200 หรือ 300 ปี ดังนั้นจึงต้องวางรากฐานโครงสร้างอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรงเพื่อพร้อมรับมือ


ภาพจาก: AFP 


ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

ญี่ปุ่น
แผ่นดินไหว
กรุงโตเกียว
สึนามิ
แผ่นดินไหวญี่ปุ่น
ข่าวแผ่นดินไหว