

สรุปข่าว
กระแสความนิยมของสิ่งที่เรียกว่า NFT นั้นมาแรงมากในช่วงต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ในบทความนี้จึงอยากจะแชร์ข้อมูลและสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับ NFT ในแบบฉบับที่ง่ายและกระชับที่สุด เหมือน NFT 101 เพื่อให้ทุกท่านสามารถเข้าใจเบื้องต้นและนำไปต่อยอดในอนาคต
NFT คืออะไร?
ของทุกอย่างบนโลกมีทั้งสิ่งที่ทดแทนกันได้และทดแทนกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราต้องการหาซื้อหนังสือสักหนึ่งเล่มที่เราสนใจ เราสามารถหาซื้อจากที่ไหนก็ได้ ซื้อตามร้านหนังสือ สั่งจากอินเตอร์เน็ต ก็ได้ทั้งนั้น เราหยิบเล่มไหนมาก็ได้เพราะทุกเล่มเหมือนกัน ทดแทนกันได้ อีกกรณีหนึ่งคือ เพื่อนยืมเงินของเราไปหนึ่งพันบาท เวลาที่ใช้คืนจะจ่ายด้วยธนบัตร เหรียญ โอนผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ทั้งนั้น เพราะมันทดแทนกันได้ แบบนี้เรียกว่า Fungible
กรณีตรงกันข้ามคือ หนังสือที่เราต้องการซื้อ ผู้เขียนมีการเซ็นลายเซ็นแถม Run Number ของหนังสือเป็นกรณีพิเศษ เช่น เล่มที่ 1-99 ขายในราคาแพงกว่าปกติ ทำให้ของชิ้นนั้นกลายเป็นชิ้นเดียวบนโลก ทดแทนกันไม่ได้ เวลาใครยืมไปก็ต้องนำเล่มนั้นมาคืนเราเท่านั้น แบบนี้เรียกว่า Non-Fungible
ดังนั้นความหมายของ NFT (Non-Fungible Token) ก็แปลว่ามันคือโทเคนที่มีแค่ชิ้นเดียวบนโลก ไม่เหมือนใคร ทดแทนกันไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ โดยวิธีการที่ทำให้มันมีหนึ่งเดียวและปลอดภัยคือใช้ Blockchain ที่พวกเรารู้จักกันนั่นเอง
ข้อดีของ NFT
1.สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลงานแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานในโลกปกติหรือโลกของ NFT ก็สามารถออกแบบเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น แบรนรองเท้ากีฬาออกแบบรองเท้ารุ่นใหม่แบบ Limited Edition มีแค่ 100 คู่ทั่วโลก และทำออกมาเป็น NFT ให้คนที่สนใจสามารถซื้อเป็นไอเทมรองเท้าไปใช้ในเกมหรือใน Metaverse ก็ได้ มันก็ยิ่งทำให้กระแสและความสนุก ความน่าสนใจของรองเท้า Limited Edition นี้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นอีก
2.โอนกรรมสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หรือผ่านตัวกลางน้อยรายที่สุด ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าบางอย่างยิ่งมีตัวกลางหลายชั้นก็ยิ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเท่านั้น แต่กับ NFT นั้นเราอาจผ่านตัวกลางแค่แห่งเดียวที่เรียกว่า Marketplace ก็ทำให้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนและเข้าถึง NFT ได้จากทั่วโลก
3.บันทึกธุรกรรมไว้ใน Blockchain ทำให้ NFT แต่ละชิ้นมีเพียงหนึ่งเดียว ปลอดภัย ตรวจสอบได้ ปลอมแปลงไม่ได้ ตัดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ได้ในระดับหนึ่ง
4.ตรวจสอบประวัติของผู้ถือกรรมสิทธิ์ ต้องแชร์แบบนี้ก่อนว่า ผลงาน NFT นั้นผู้ถือครองเปรียบเหมือนเจ้าของกรรมสิทธิ์ชิ้นงาน ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ เราจะนำผลงาน NFT ไปทำซ้ำ ไปปริ้นลงเสื้อขายทั่วไป “อาจจะทำได้หรือทำไม่ได้” ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของผลงานหรือเจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตหรือไม่ ซึ่งทั้งเจ้าของผลงานและผู้ครอบครองผลงาน เราสามารถตรวจสอบได้เพราะข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกลง Blockchain เป็นที่เรียบร้อย
(ภาพประกอบ ข้อดีของ NFT)
NFT Use Cases
NFT นั้นไม่ใช่เพียงแค่งานศิลปะ หรือ Digital Art เท่านั้น มันสามารถครอบคลุมได้แทบทุกอย่างเท่าที่เราจิตนาการไหว ขอเพียงแค่สิ่ง ๆ นั้นมีคุณค่ากับใครบางคน หรือใครหลาย ๆ คนก็พอ ปัจจุบัน NFT Use Case มีมากและครอบคลุมในหลายวงการ ที่สำคัญคือยัง Ecosystem ที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้เข้าถึงกัน เหมือนเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจแตกต่างกันอีกด้วย
Use Case ที่มีก็เช่น Gaming, Sports, Media, Real Estate, Metaverse, Music, Digital Art และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงการเติบโตย้อนหลังของ NFT ทั้งในมุมของขนาดตลาด, ปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบ, และกระแสความสนใจของผู้คน ล้วนเพิ่มสูงขึ้นมากในทุกมุม รวมถึงมีการคาดการณ์จากหลายฝ่ายว่ามีโอกาสเติบโตไปได้อีกมากในอนาคต
(ภาพประกอบ NFT Use Cases)
เพราะฉะนั้นจึงน่าเสียดายหากเราละเลยที่จะลองศึกษาว่ามันคืออะไร แม้เราจะไม่ใช่นักออกแบบผลงาน (Creator) หรือนักสะสม (Collector) แต่ในอนาคตข้างหน้า NFT อาจจะเกี่ยวข้องกับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การทำความเข้าใจไว้ตั้งแต่ต้นจึงไม่เสียหายอะไรเลย แล้วในบทความต่อไปของเราจะมาแชร์ว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ราคา NFT พุ่งสูงขึ้น รวมถึง NFT Coin กับ NFT ปกติแตกต่างกันหรือไม่
ข้อมูล: เอกราช ศรีศุภวิชากิจ Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex Trader
ภาพประกอบ : AFP ,Zipmex
ที่มาข้อมูล : -